นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากกรณีมาตรการในการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 33 บาทต่อลิตร จะสิ้นสุดในเดือนกรกฎาคม 2567 นี้ ส่งผลให้มีการปรับราคาน้ำมันดีเซลขึ้น 1 บาท กรมฯไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้มีการติดตามต้นทุนราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะต้องรอดูว่าจะมีการขยายระยะเวลามาตรการออกไปอีกหรือไม่ หากราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้นจะส่งผลต่อต้นทุนสินค้าโดยตรง โดยเฉพาะค่าขนส่ง รวมทั้งยังมีต้นทุนค่าไฟฟ้าที่คาดว่าจะมีการปรับเพิ่มขึ้น

โดยเบื้องต้นยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดขอปรับขึ้นราคาสินค้า ส่วนใหญ่ไม่อยากจะปรับขึ้น เพราะภาพรวมกำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัว จึงพยายามคงราคาสินค้าเอาไว้ เพื่อให้มียอดขายกลับเข้ามา  ขณะที่กรมฯก็ได้ขอความร่วมมือไปยังห้างค้าส่งค้าปลีก จัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้าช่วยผู้บริโภคควบคู่กันไปด้วย

ในขณะที่ภาพรวมสถานการณ์ราคาสินค้า พบว่าหลายชนิดราคายังทรงตัว และบางชนิดปรับตัวลดลง โดยเฉพาะผักสด ปรับลดลงจากเดือนที่แล้วหลายรายการ อาทิ คะน้า จาก 35.24 บาท/กิโลกรัม (กก.)ลดเหลือ 32 บาท/กก. ถั่วฝักยาว จาก 55.37 บาท/กก. ลดเหลือ 50 บาท/กก.ผักชี จาก 128.92 บาท/กก. ลดเหลือ 111.40 บาท/กก. พริกขี้หนูจินดา จาก 81.29 บาท/กก. ลดเหลือ 73.50 บาท/กก.มะนาว จาก 3.65 บาท/ลูก ลดเหลือ 3.20 บาท/ลูก ส่วนราคาเนื้อสัตว์สัปดาห์นี้มีทั้งปรับขึ้นและลดลง หมูเนื้อแดง ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 131.50 บาท/กก. จาก 130 บาท/กก.เนื้อไก่ น่องติดสะโพก ลดลงจาก 82.96 บาท/กก. เหลือ 81.44 บาท/กก. เนื้ออกไก่ ลดลงจาก 84.05 บาท/กก. เหลือ 83.31 บาท/กก.

ทั้งนี้ กรมฯยังคงเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยได้ส่งสายตรวจออกไปสืบและเก็บราคาทุกวัน เช่นเดียวกับพาณิชย์จังหวัดก็ทำหน้าที่ดังกล่าว เพื่อประมวลผลอย่างใกล้ชิดพร้อมกับส่งรถเคลื่อนที่ธงฟ้าราคาประหยัด ลงพื้นที่จัดจำหน่ายสินค้าราคาถูกเพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าอุปโภค-บริโภคมีราคาที่เป็นธรรม และไม่ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพประชาชน ตลอดจนทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดจากการบริโภคสินค้าอุปโภค-บริโภคในราคาที่เหมาะสม พร้อมย้ำว่าการขึ้นราคาสินค้าจะเป็นหนทางสุดท้าย