วันจันทร์ ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
มุมมองนักบริหาร : ธุรกิจประกันชีวิตต้องพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือต่อปัจจัยท้าทายรอบด้าน

มุมมองนักบริหาร : ธุรกิจประกันชีวิตต้องพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือต่อปัจจัยท้าทายรอบด้าน

วันจันทร์ ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2567, 06.05 น.
Tag :
  •  

ll นางนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ ซึ่งได้รับเลือกให้เป็น นายกสมาคมประกันชีวิตไทยคนล่าสุด ซึ่งจะดำรงตำแหน่ง 2 ปี (1 กรกฎาคม2567-30 มิถุนายน 2569) เปิดเผยว่า ธุรกิจประกันชีวิตยังคงต้องติดตามแนวโน้ม และความผันผวน ของสถานการณ์เศรษฐกิจทั้งภายในประเทศและเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องอัตราดอกเบี้ย สถานการณ์เงินเฟ้อ และตลาดหุ้นไทย ที่ส่งผลกระทบต่อการออม การลงทุน และภาระหนี้สินภาคครัวเรือนที่ส่งผลต่อการใช้จ่ายของภาคประชาชน รวมถึงต้องติดตามสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการเกิดโรคอุบัติใหม่ เพราะส่งผลต่อความต้องการและความเชื่อมั่นของภาคประชาชนที่มีต่อธุรกิจประกันชีวิตโดยตรง

ดังนั้น สมาคมประกันชีวิตไทยจึงมีแผนดำเนินงานเพื่อเตรียมพร้อมรับมือต่อปัจจัยท้าทายรอบด้าน โดยนำแนวคิดการพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน (ESG) มาประยุกต์ใช้ในการประกอบการพิจารณาลงทุน การออกแบบ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต รวมถึงการบริการที่สามารถตอบโจทย์ต่อความต้องการภาคประชาชนและสังคมในทุกด้าน ทั้งมิติของสิ่งแวดล้อม (Environment) มิติของสังคม (Social) และมิติของการกำกับดูแล (Governance) เพื่อให้ธุรกิจประกันชีวิตมีหลักธรรมมาภิบาลสามารถเติบโตอย่างความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น


นอกจากนี้สมาคมฯ มีนโยบายในการสนับสนุนในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาใช้พัฒนากระบวนการต่างๆ ของธุรกิจประกันชีวิต เพื่อยกระดับความพึงพอใจและความเชื่อมั่นของผู้เอาประกันภัยให้มากขึ้น มีการส่งเสริมให้ความรู้แก่ประชาชน เช่น เรื่องการรู้เท่าทันของเทคโนโลยีและภัยไซเบอร์ เพื่อช่วยปกป้องผลประโยชน์ของผู้เอาประกันภัย รวมถึงมีนโยบายเชิงรุกในการปรับปรุงกฎเกณฑ์ต่างๆให้เป็นปัจจุบัน โดยทางสมาคมฯ จะเป็นแกนกลางในการประสานพันธกิจทั้งในรูปแบบประชุมหารือรับฟังความคิดเห็นระหว่างบริษัทประกันชีวิต กับ หน่วยงานกำกับดูแล รวมถึงจัดตั้งคณะทำงานกลุ่มย่อยที่มีคณะกรรมการบริหารสมาคมเป็นประธานเพื่อติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งผลักดันระบบการจัดสอบและอบรมความรู้ ระบบออกใบอนุญาตตัวแทนประกันชีวิตในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทั้งบริษัทสมาชิก และ บุคคลทั่วไปที่สนใจสมัครสอบเข้าสู่เส้นทางอาชีพตัวแทนประกันชีวิต

ที่สำคัญ สมาคมฯ มีนโยบายที่มุ่งให้แต่ละบริษัทประกันชีวิตมีแนวทางการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงการบริหารและจัดการความเสี่ยงอย่างรอบด้าน ทั้งก่อนและหลังการรับประกันภัยและมีฐานะทางการเงินที่มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนตามความเสี่ยง (CAR Ratio) สูงกว่าระดับเงิกองทุนที่ต้องดำรงตามเกณฑ์ที่กำหนด (Supervisory CAR) เพื่อให้ผู้เอาประกันภัยมั่นใจว่า บริษัทประกันชีวิตสามารถปฏิบัติตามภาระผูกพันของกรมธรรม์ประกันภัยได้ทุกกรมธรรม์ที่ออกให้แก่ผู้เอาประกันภัย และพร้อมที่จะให้ความคุ้มครองแก่ผู้เอาประกันภัยจนกว่าจะครบกำหนดสัญญา ดังจะเห็นได้จากในไตรมาสที่ 1/2567 จากข้อมูลบนเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ภาคธุรกิจประกันชีวิตมีอัตราส่วนความพอเพียงของเงินกองทุนตามความเสี่ยง อยู่ที่ 384.21% ซึ่งสูงกว่าอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน ที่ใช้ในการกำกับ (Supervisory CAR) จึงขอให้ผู้เอาประกันภัยทุกท่านเชื่อมั่นว่าธุรกิจประกันชีวิตมีความมั่นคง แข็งแกร่ง และยึดมั่นคำสัญญาตามข้อผูกพันในกรมธรรม์ประกันชีวิตทุกกรมธรรม์ที่ออกให้แก่ผู้เอาประกันภัย

สำหรับภาพรวมธุรกิจประกันชีวิตในช่วงครึ่งแรกปี 2567 ระหว่าง มกราคม-มิถุนายน มีเบี้ยประกันภัยรับรวม (Total Premium) อยู่ที่ 311,413.63 ล้านบาทเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.80เมื่อเทียบกับปี 2566 จำแนกเป็นเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ (New Business Premium) 88,332.86 ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 1.76% และเบี้ยประกันภัยรับปีต่อไป (Renewal Premium) 223,080.77 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 4.63% และมีอัตราความคงอยู่ที่ 83%

สำหรับเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ประกอบด้วย 1.เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (First Year Premium) 58,266.84ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 3.21% 2.เบี้ยประกันภัยจ่ายครั้งเดียว (Single Premium) 30,066.02 ล้านบาท เติบโตลดลง0.92% จำแนกเบี้ยประกันภัยรับรวมแยกตามช่องทางการจำหน่าย ดังนี้ 1.การขายผ่านช่องทางตัวแทนประกันชีวิต (Agency) เบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 155,522.29 ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 1.98% เมื่อเทียบกับปี 2566 คิดเป็นสัดส่วน 49.94% 2.การขายผ่านช่องทางธนาคาร (Bancassurance) เบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 122,507.58 ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 4.28% เมื่อเทียบกับปี 2566 คิดเป็นสัดส่วน 39.34% 3.การขายผ่าน ช่องทางนายหน้าประกันชีวิต (Broker) เบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 18,874.47 ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 13.42% เมื่อเทียบกับปี 2566 คิดเป็นสัดส่วน 6.06% 4.การขายผ่านช่องทางโทรศัพท์ (Tele Marketing) เบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 6,269.10 อัตราการเติบโตติดลบ 8.43% เมื่อเทียบกับปี 2566 คิดเป็นสัดส่วน 2.01% 5.การขายผ่านช่องทางดิจิทัล (Digital) เบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 585.12 ล้านบาท อัตรา การเติบโตเพิ่มขึ้น 21.38% เมื่อเทียบกับปี 2566 คิดเป็นสัดส่วน 0.19% 6.การขายผ่านช่องทางอื่น (Others) เช่น การขาย Worksite, Walkin การขายผ่านการออกบูธ การขายผ่านร้านค้าสะดวกซื้อ Direct Mail, Tele Marketing เป็นต้น เบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 7,647.11ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 26.72% เมื่อเทียบกับปี 2566 คิดเป็นสัดส่วน 2.46%

สำหรับผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ได้รับความนิยมและมีอัตราการเติบโตมากขึ้นในช่วงครึ่งแรก ปี 2567 คือ สัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพ ที่มีเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 51,450.58ล้านบาท เติบโตเพิ่ม 14.33% คิดเป็นสัดส่วน 16.52% ซึ่งหลักๆ มาจากการที่ประชาชนใส่ใจดูแลสุขภาพและเริ่มตระหนักถึงความสำคัญในการทำประกันสุขภาพมากขึ้น เพื่อบริหารความเสี่ยงและรับมือกับค่ารักษาพยาบาลที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น (MedicalInflation) ในขณะที่ ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบบำนาญ (Pension) ก็ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก โดยครึ่งแรก ปี 2567 มีเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 5,699.48 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 11.25% หรือ คิดเป็นสัดส่วน 1.83% ในปี 2567 สมาคมประกันชีวิตไทยได้ประมาณการอัตราการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตอยู่ที่ในช่วง 2.0-4.0% ซึ่งสอดคล้องกับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ในปี 2567 ที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้คาดการณ์ไว้ที่ 2.5%

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากกระแสคนรักสุขภาพ อันเนื่องมาจากการที่ประชาชนตระหนักถึงผลกระทบของการเกิดโรคอุบัติใหม่และมลภาวะ รวมถึงแนวโน้มค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ประชาชนหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพ และมีการทำประกันสุขภาพมากขึ้น รวมถึงการที่ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัย (Aged Society) อย่างเต็มตัวทำให้ตระหนักถึงความสำคัญของการวางแผนทางการเงินช่วงวัยเกษียณกันมากขึ้น เพราะนอกจากเป็นรูปแบบการออมประเภทหนึ่งที่มีความเสี่ยงต่ำแล้ว ยังได้รับความคุ้มครองชีวิต และสิทธิการลดหย่อนภาษีที่ทางภาครัฐให้การสนับสนุนรวมทั้งภาคธุรกิจยังได้มีนโยบายสนับสนุนการใช้เทคโนโลยี เช่น AI และ Data Analyticsเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การเสนอขายการพิจารณารับประกันภัย การพิจารณาสินไหมไปจนถึงการส่งมอบบริการและธุรกรรมหลังการขายที่เกี่ยวข้องกับกรมธรรม์ เพื่อยกระดับความพึงพอใจของผู้เอาประกันภัยให้เพิ่มสูงขึ้น

l อนันตเดช พงษ์พันธุ์ l

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • อีสท์สปริง เสิร์ฟตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน ลงทุนตั๋วเงินคลังญี่ปุ่น มูลค่า 7,000 ล้าน อีสท์สปริง เสิร์ฟตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน ลงทุนตั๋วเงินคลังญี่ปุ่น มูลค่า 7,000 ล้าน
  • กบข. เร่งรัดจ่ายเงินกองทุนให้ทายาทเหล่าทหารกล้า กบข. เร่งรัดจ่ายเงินกองทุนให้ทายาทเหล่าทหารกล้า
  • SAM ออกมาตรการเร่งด่วนครอบคลุมทุกกลุ่ม พักเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุด 3 เดือน จัดดอกเบี้ยต่ำ  3-5% SAM ออกมาตรการเร่งด่วนครอบคลุมทุกกลุ่ม พักเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุด 3 เดือน จัดดอกเบี้ยต่ำ 3-5%
  • แรบบิท ประกันชีวิต  เสริมช่องว่างสวัสดิการ มนุษย์เงินเดือน ด้วย ‘Health Smile’ แรบบิท ประกันชีวิต เสริมช่องว่างสวัสดิการ มนุษย์เงินเดือน ด้วย ‘Health Smile’
  • InnovestX คัด 5 กองทุนเด่นทั่วโลก รับสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัวครึ่งปีหลัง InnovestX คัด 5 กองทุนเด่นทั่วโลก รับสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัวครึ่งปีหลัง
  • ธอส. ออกมาตรการพักชำระหนี้นานสูงสุด 1 ปี ช่วยเหลือลูกค้าในพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชา ธอส. ออกมาตรการพักชำระหนี้นานสูงสุด 1 ปี ช่วยเหลือลูกค้าในพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชา
  •  

Breaking News

กต.เชิญทูต-ผู้แทน 74 ประเทศ รวม 121 คน รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

ชุด EOD ทำลายระเบิด BM-21 ใกล้ปั๊มน้ำมันกันทรลักษ์ได้อย่างปลอดภัย

‘กล้าธรรม’ ย้ำจุดยืน ‘ภาษีทรัมป์’ ต้องกระทบเกษตรกรน้อยที่สุด

'สะถิระ'รับ'กล้าธรรม'เตรียมส่งชื่อชิงรองประธานสภาฯ แทน'พิเชษฐ์' ลั่นทุกพรรคมีสิทธิ์เสนอ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved