ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สรุปมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตามกลุ่มนักลงทุนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-2 สิงหาคม 2567 พบว่าสถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 1,801.49 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์(โบรกเกอร์)ขายสุทธิ 1,716.35 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 120,832.64 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศ(รายย่อย)ซื้อสุทธิ 120,747.50 ล้านบาท

ทั้งนี้เฉพาะช่วงวันที่ 1-2 สิงหาคม 2567 สถาบันขายสุทธิ 190.23 ล้านบาท โบรกเกอร์ขายสุทธิ 236.56 ล้านบาทนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 2,049.08 ล้านบาท รายย่อยซื้อสุทธิ 2,095.41ล้านบาท

ขณะที่ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวขึ้นเกือบตลอดสัปดาห์ก่อนจะลดช่วงบวกลงบางส่วนในช่วงปลายสัปดาห์ ทั้งนี้ หุ้นไทยขยับขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ โดยมีปัจจัยหนุนหลักๆ จากความหวังเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในช่วงเดือนกันยายน การปรับเกณฑ์ของกองทุน TESG ซึ่งถูกคาดหมายว่า จะช่วยกระตุ้นตลาดหุ้นไทย รวมถึงแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและพลังงาน หลังจากผลประกอบการไตรมาส 2/2567 ของบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และบริษัทด้านพลังงานรายใหญ่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด ตลาดหุ้นไทยขยับขึ้นต่อหลังเสร็จสิ้นการประชุมเฟด ซึ่งแม้ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดมีมติคงดอกเบี้ย แต่ก็ได้ส่งสัญญาณสะท้อนว่าอาจมีการปรับลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายนตามตลาดคาดการณ์ อย่างไรก็ดี หุ้นไทยลดช่วงบวกลงบางส่วนในช่วงปลายสัปดาห์ตามภาพรวมหุ้นต่างประเทศที่ปรับตัวลงจากความกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจของสหรัฐ

สำหรับแนวโน้มในสัปดาห์นี้(5-9 สิงหาคม 2567) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยคาดแนวรับที่ 1,300 และ 1,290 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,325 และ 1,335 จุด ตามลำดับ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนกรกฎาคมของไทย ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ประเด็นการเมืองในประเทศ ผลประกอบการไตรมาส 2/2567 ของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ