nn บมจ.ไทยออยล์....คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบรอบสัปดาห์นี้ (21-25 ต.ค. 2567)...โดยระบุว่าราคาน้ำมันดิบถูกกดดันต่อเนื่อง เนื่องจากโอเปกและสำนักงานพลังงานสากลปรับลดคาดการณ์การเติบโตอุปสงค์น้ำมันโลกปี’67 และ ’68 หลังตัวเลขเศรษฐกิจจีนอ่อนแอ แม้รัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ยังคงไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน ขณะที่ตลาดคาดสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางจะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุปทานน้ำมันดิบอย่างไรก็ดี ตลาดยังได้รับแรงหนุนเนื่องจากธนาคารกลางยุโรปปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในเดือนนี้ นอกจากนี้คาดการณ์ธนาคารกลางอังกฤษจะปรับลดดอกเบี้ยเช่นเดียวกันหลังอัตราเงินเฟ้อชะลอตัวต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังต้องจับตาเนื่องจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เริ่มเข้าสู่โค้งสุดท้ายก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 5 พ.ย.นี้...ไทยออยล์....คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 67-77 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล...ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 70-80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล...
nn กระทรวงพลังงาน เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ต.ค. 2567 นี้(ครม.) พิจารณาทบทวนราคาน้ำมันดีเซลอีกครั้ง เนื่องจากจะสิ้นสุดมาตรการตรึงราคาดีเซลไม่ให้เกิน 33 บาทต่อลิตร ในวันที่ 31 ต.ค. 2567...คาดว่าแนวทางที่น่าจะเป็นไปได้ คือ 1.ครม. ต่ออายุมาตรการตรึงราคาดีเซลที่ 33 บาทต่อลิตร ไปจนถึงสิ้นปี 2567 นี้ 2.ครม. ไม่ประกาศตรึงราคาดีเซล แต่กำหนดให้คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ บริหารจัดการดูแลราคาดีเซลเองแต่แนะนำว่าไม่ควรให้ราคาจำหน่ายเกิน 33 บาทต่อลิตร หรือ 3.ครม.ปรับลดเพดานราคาดีเซลสูงสุดลงเหลือไม่เกิน 32 บาทต่อลิตร เนื่องจากประชาชนบางกลุ่มเห็นว่าราคาดีเซลปัจจุบันแพงเกินไป...ปัจจุบันราคาดีเซลจำหน่ายอยู่ที่ 32.94 บาทต่อลิตร และดีเซลเกรดพรีเมียมจำหน่ายที่ 44.94 บาทต่อลิตร โดยกองทุนน้ำมันฯ ไม่ได้ชดเชยราคาดีเซลมาตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค. 2567 แล้ว และยังมีรายได้จากการเรียกเก็บเงินผู้ใช้ดีเซลส่งเข้ากองทุนฯ ด้วย โดยดีเซลและดีเซล B20เรียกเก็บอยู่ 1.66 บาทต่อลิตร ส่วนดีเซลเกรดพรีเมียมเรียกเก็บ 3.16 บาทต่อลิตร...!! หาก ครม. ไม่พิจารณาต่ออายุมาตรการตรึงราคาดีเซลที่ 33 บาทต่อลิตร จะส่งผลให้ราคาดีเซลต้องเป็นไปตามกลไกตลาดโลก ซึ่งจะส่งผลกระทบให้ในอนาคตหากราคาน้ำมันโลกปรับสูงขึ้นอาจทำให้ราคาดีเซลในไทยสูงเกิน 33 บาทต่อลิตรได้...แต่หากครม. ปรับลดเพดานราคาดีเซลลงเหลือ 32 บาทต่อลิตร จะส่งผลให้กองทุนฯ มีเงินไหลเข้าลดลงจากปัจจุบันเก็บเงินผู้ใช้ดีเซลเข้ากองทุนฯ อยู่ 1.66 บาทต่อลิตร จะเหลือเพียง 66 สตางค์ต่อลิตร ซึ่งจะส่งผลกระทบให้ในปี 2568 จะต้องใช้หนี้ธนาคารเพิ่มขึ้นทุกเดือนจากระดับกว่า 140 ล้านบาท ขึ้นไปถึง 3,000 ล้านบาท ตามภาระการกู้ยืมที่ผ่านมา ซึ่งกองทุนฯ อาจเหลือเงินไม่เพียงพอชำระหนี้เงินต้นได้...ทั้งนี้การพิจารณาว่าจะเลือกแนวทางใดนั้น ต้องพิจารณาฐานะเงินกองทุนน้ำมันฯ และการใช้คืนหนี้เงินต้นให้สถาบันการเงินที่จะเริ่มตั้งแต่เดือนพ.ย. 2567 นี้เป็นต้นไปด้วย โดยปัจจุบันราคาน้ำมันโลกปรับลดลง ส่งผลดีต่อกองทุนฯให้สามารถเก็บเงินเข้าได้มากขึ้น เพื่อเตรียมชำระหนี้ให้สถาบันการเงิน...
nn บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)...แจ้งโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Bacolod ฟิลิปปินส์ กำลังการผลิตไฟฟ้าสูงสุด 145 เมกะวัตต์ (MWp) ตั้งอยู่ในจังหวัด Negros Occidental ประเทศฟิลิปปินส์...จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในเดือนตุลาคม 2567 หลังการจัดหาเงินกู้จากสถาบันการเงินของฟิลิปปินส์ 2 แห่ง ได้แก่ Security Bank Corporation และ Philippine National Bank...คาดว่าจะแล้วเสร็จเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 4 ปี 2568...โครงการแห่งนี้มีต้นทุนโครงการกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะติดตั้งโซลาร์เซลล์โฟโตโวลเทอิก (Photovoltaic : PV) โดยต่อไปในระยะที่ 2 โครงการมีแผนจะติดตั้งร่วมกับระบบกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่ เพื่อให้การผลิตและจำหน่ายไฟฟ้ามีเสถียรภาพมากขึ้น โดยกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้ส่วนใหญ่จะจำหน่ายให้กับบริษัทในเครือของกลุ่ม Aboitiz Power Corporation ภายใต้สัญญาจัดหาพลังงานไฟฟ้า ระยะเวลา 10 ปีส่วนที่เหลือจะจำหน่ายในตลาดกลางซื้อขายไฟฟ้า (Wholesale Electricity Spot Market) โดยมีบริษัท เน็กส์ซิฟ ราชเอ็นเนอร์จี อินเวสเมนต์ จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้น 49% เป็นผู้บริหารและดำเนินงานโครงการ...ปัจจุบัน บริษัทฯ มีโครงการในฟิลิปปินส์ 4 โครงการ รวมกำลังการผลิตตามสัดส่วนถือหุ้น ประมาณ 550 เมกะวัตต์...
nn บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group แจ้งความก้าวหน้าของ Yunlin โรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งในไต้หวัน...ว่าได้ติดตั้งกังหันลม (Wind Turbine Generators-WTGs)ครบ 80 ต้น เรียบร้อยแล้ว แผนงานอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ติดตั้งกังหันลมซึ่งทำหน้าที่ผลิตไฟฟ้าครบทั้งหมด 80 ต้นเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งได้วางสายเคเบิลเพื่อจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้ว 78 เส้น จาก 81 เส้น...คาดว่าจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบครบทั้งหมดสิ้นปีนี้...โครงการYunlin กำลังผลิตสุทธิรวม 640 เมกะวัตต์ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบไต้หวัน ห่างจากชายฝั่งทะเลทางตะวันตกของมณฑลหยุนหลิน ในไต้หวัน เป็นระยะทางประมาณ 8-30 กิโลเมตร และครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 90 ตารางกิโลเมตร โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว 20 ปี กับ Taipower (Taiwan Power Company) ปัจจุบันกังหันลมที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วได้จ่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเข้าสู่ระบบโครงข่ายไฟฟ้าไต้หวันแล้วมากกว่า1,600 กิกะวัตต์ชั่วโมง เมื่อโครงการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์จะสามารถจ่ายไฟฟ้าให้กับครัวเรือนไต้หวันได้มากกว่า 600,000 หลังคาเรือน...โดย EGCO Groupถือหุ้น 26.56% ใน Yunlin...เมื่อโครงการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์คาดว่าจะสร้างกระแสเงินสดให้ EGCO Group เฉลี่ย 2,000 ล้านบาทต่อปี ในช่วง 5 ปีแรกของการดำเนินโครงการ...nn
กระบองเพชร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี