เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายใน ได้เชิญสมาคมผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลือง เพื่อติดตามสถานการณ์และกำกับดูแลสินค้าน้ำมันพืชบรรจุขวดอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง โดยสมาคมฯ ยืนยันยังไม่ปรับขึ้นราคาน้ำมันถั่วเหลือง เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนผู้บริโภคในช่วงที่น้ำมันปาล์มขวดมีแนวโน้มปรับราคาสูงขึ้น ซึ่งน้ำมันถั่วเหลืองจะสามารถใช้ทดแทนน้ำมันปาล์มขวดได้สำหรับการบริโภคในครัวเรือนเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งการไม่ขึ้นราคาดังกล่าวจะช่วยลดปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มขวดได้ในระดับหนึ่ง นอกจากที่กรมได้ประชุมร่วมกับสมาคมผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองไม่ให้ขึ้นราคาน้ำมันถั่วเหลืองแล้ว อยากเชิญชวนให้ผู้บริโภคมาบริโภคน้ำมันถั่วเหลืองเป็นทางเลือกทดแทนในครัวเรือน เนื่องจากตอนนี้ราคาน้ำมันถั่วเหลืองไม่สูงหากเทียบกับน้ำมันปาล์ม โดยคิดว่าจะสามารถมีจำหน่ายเพิ่มเติมได้ประมาณวันละ 150,000 ขวด อย่างไรก็ตาม กรมจะติดตามปริมาณสต็อกตลอดระยะนี้ เพื่อการบริหารจัดการปริมาณในท้องตลาดให้มีความเหมาะสม และบ่ายวันนี้ (4 พ.ย.67) จะมีการหารือร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และเกษตรกรเรื่องการบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์มต่อไป

สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยที่ต้องใช้น้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารเช่น กล้วยแขกหรือปาท่องโก๋ กรมจะมีมาตรการให้พาณิชย์จังหวัดติดตามดูแลสถานการณ์อย่างต่อเนื่องในการควบคุมราคาสินค้า และร่วมกับบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือปั๊มน้ำมันพีที ในการทำโปรโมชั่นน้ำมันปาล์มราคาประหยัด และเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายน้ำมันปาล์มราคาถูกผ่านร้านธงฟ้า รวมทั้งในระยะถัดไปหากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย กรมอาจจะพิจารณาหารือกับกระทรวงพลังงานในเรื่องของการพิจารณาการผลิตน้ำมันจากสูตร B7 เป็น B5 ในช่วงที่ปริมาณผลปาล์มมีไม่มาก และจะติดตามให้มีความสมดุลระหว่างผลผลิตและราคาต่อไป

นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้มีการหารือร่วมกับห้างค้าส่งค้าปลีก ห้างท้องถิ่น ทุกห้างยันผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองบรรจุขวด ไม่มีการแจ้งปรับขึ้นราคาตามที่มีกระแสข่าวช่วงก่อนหน้านี้ พร้อมเดินหน้าส่งสินค้าในราคาเดิมให้เพียงพอ และห้างจะจัดโปรโมชั่นจำหน่ายน้ำมันถั่วเหลืองเพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยกรมฯ จะร่วมกับห้างในการติดตามราคาและการจัดส่งสินค้าให้เพียงพออย่างต่อเนื่องทุกวัน กรณีตรวจสอบพบการฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าแพงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธการจำหน่ายจะมีโทษจำคุก 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในส่วนของประชาชนหากไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการสามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569

- 006