นายประกิต ประสิทธิ์ศุภผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ หรือ PCE เปิดเผยว่า ไตรมาส 3/2567 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการ 8,858.1 ล้านบาท เติบโต 79% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 4,949.4 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 188.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,696.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 3.3 ล้านบาท กำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นมาจากในช่วงไตรมาสดังกล่าว บริษัทฯ ได้มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ น้ำมันเมล็ดในปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ (RBDPKO) นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์หลัก เช่น น้ำมันปาล์มดิบกึ่งบริสุทธิ์ (RBDPO) น้ำมันปาล์มดิบ (CPO) และน้ำมันเมล็ดในปาล์ม (CPKO) ยังมีปริมาณการจำหน่ายเพิ่มสูงขึ้น
ภาพรวมผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการ 21,747.9 ล้านบาท เติบโต 16.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้
18,696 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 400.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86.7% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 214.5 ล้านบาท จากปัจจัยการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ดังกล่าว ส่งผลให้มีรายได้เพิ่มขึ้น และผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทฯ มีปริมาณการจำหน่ายเพิ่มขึ้นจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าที่เป็น Strategic Parther ตลอดจนความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากตลาดต่างประเทศ ประกอบกับ มีลูกค้าใหม่ที่ทำสัญญาระยะยาวกับบริษัทฯ รายได้หลักของบริษัทฯ มาจากอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม 98.8% และมีสัดส่วนการจำหน่ายในประเทศ 62.8% และต่างประเทศ 37.2%
นายประกิต กล่าวถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2567 ว่า จากปัจจัยความต้องการใช้น้ำมันปาล์มในประเทศที่ยังเติบโต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมโอเลโอเคมิคอล ที่คาดว่าในปี 2567 การบริโภคน้ำมันปาล์มในประเทศ และความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบ (CPO) จะเติบโตเฉลี่ย 6-7% ประกอบกับความต้องการน้ำมันปาล์มดิบที่เพิ่มสูงขึ้นของตลาดโลกคาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องจนถึงปี 2568
ขณะที่ผู้นำตลาดน้ำมันปาล์มดิบรายใหญ่ของโลกคิดเป็น 59% อย่างประเทศอินโดนีเซีย ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2567 กลับมีปริมาณน้ำมันปาล์มดิบคงคลังลดลงจากปีก่อนหน้าถึง 13.61% จากปัญหาสภาพอากาศที่ร้อนจัดส่งผลกระทบต่อผลผลิตปาล์มน้ำมัน และยังมีความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบในอุตสาหกรรมไบโอดีเซลภายในประเทศที่สูงขึ้น ซึ่งในเดือนสิงหาคมมีการใช้ CPO สูงถึง 2.01 ตัน เติบโตจากปี 2566 ถึง 8.92%
นอกจากนี้รัฐบาลอินโดนีเซียมีแผนจะเพิ่มสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลเป็น B40 ในปี 2568 คาดว่าจะทำให้ปริมาณน้ำมันปาล์มดิบที่ออกสู่ตลาดโลกเกิดภาวะตึงตัวมากขึ้น เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นโดยจะเป็นปัจจัยบวกต่อ PCE เนื่องจากประเทศไทยไม่มีการเก็บภาษีส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ จึงยังคงมีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลก และ PCE ได้ตั้งเป้าหมายการขายเติบโตราว 10-15% ในปี 2567
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี