วันอังคาร ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
ครม.ไฟเขียวพ.ร.บ.ศูนย์กลางการเงิน หวังดันไทยสู่'Financial Hub'อันดับต้นของโลก

ครม.ไฟเขียวพ.ร.บ.ศูนย์กลางการเงิน หวังดันไทยสู่'Financial Hub'อันดับต้นของโลก

วันอังคาร ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568, 13.53 น.
Tag : การกระทรวงการคลัง คริปโต คลัง เงินดิจิทัล เผ่าภูมิ พ.ร.บ.ศูนย์กลางการเงิน รมช.คลัง เศรษฐกิจ
  •  

วันที่ 4 ก.พ.2568 ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 เห็นชอบหลักการของร่าง พ.ร.บ. ศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน พ.ศ. .... เพื่อดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน (Financial Hub) เพื่อเป็นผู้เล่นสำคัญทางเศรษฐกิจในเวทีโลก และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

กฎหมายใหม่นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การพิจารณาใบอนุญาต และการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจภายใต้ Financial Hub มีความครบวงจร เป็นสากล และเอื้อต่อการประกอบธุรกิจ รวมทั้งให้มีหน่วยงานหลักกำหนดนโยบายในการส่งเสริมให้ไทยเป็น Financial Hub และกำหนดนโยบายในการพัฒนาระบบนิเวศของอุตสาหกรรมการเงิน (Ecosystem) ทั้งการพัฒนาบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐานให้สอดรับกับความต้องการของบริษัทด้านการเงินระดับโลก


ร่าง พ.ร.บ. ประกอบด้วย 9 หมวด 96 มาตรา ยกเว้นกฎหมาย 7 กฎหมาย กำหนดรายละเอียดธุรกิจเป้าหมายใน Financial Hub จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงินให้เป็นหน่วยงานให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One-stop Authority: OSA) กำหนดคุณสมบัติของผู้ประกอบธุรกิจและกลไกการขออนุญาต กำหนดสิทธิประโยชน์เพื่อจูงใจนักลงทุน รวมไปถึงแนวทางการกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามหลักสากล โดยสรุปหลักการร่าง พ.ร.บ. ได้ดังนี้

1) ผู้ประกอบธุรกิจใน Financial Hub

เป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยหรือสาขาของนิติบุคคลต่างประเทศ

2) ธุรกิจที่จะเกิดขึ้นใน Financial Hub

(1) ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ (2) ธุรกิจบริการการชำระเงิน (3) ธุรกิจหลักทรัพย์ (4) ธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (5) ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (6) ธุรกิจประกันภัย (7) ธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อ (8) ธุรกิจทางการเงินหรือธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่องหรือสนับสนุนธุรกิจทางการเงิน ต้องมีสถานที่ตั้งในเขตพื้นที่ที่กำหนด ต้องจ้างแรงงานไทยเป็นสัดส่วนตามกำหนด สามารถให้บริการแก่ผู้ที่มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศเท่านั้น ยกเว้นในบางเงื่อนไขที่เป็นไปเพื่อการประกอบธุรกิจ

3) การขออนุญาต

ยื่นขอใบอนุญาตผ่านสำนักงานคณะกรรมการกำกับ และส่งเสริมศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน (One Stop Authority: สำนักงาน OSA) ที่จะตั้งขึ้นใหม่ เพื่อเป็นหน่วยงานให้บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จครบวงจร (End to end) โดยมีคณะกรรมการ OSA ทำหน้าที่ (1) กำหนดนโยบายเพื่อส่งเสริมให้ไทยเป็น Financial Hub (2) กำหนดแนวทางการส่งเสริมธุรกิจเป้าหมาย (3) กำหนดประเภทและขอบเขตของการอนุญาต (4) กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขในการขออนุญาต การอนุญาต รวมทั้งการเพิกถอน (5) กำหนดหลักเกณฑ์ในการกำกับดูแล

4) สิทธิประโยชน์ของผู้ประกอบธุรกิจใน Financial Hub

จะได้รับสิทธิประโยชน์ทั้งทางภาษีและมิใช่ภาษีตามที่ คกก. กำหนด โดยสิทธิประโยชน์ทางภาษีจะต้องแข่งขันได้ และสิทธิประโยชน์ที่มิใช่ภาษี เช่น การยกเว้นกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว สิทธิประโยชน์ในการนำคนต่างด้าวเข้ามาอยู่ในประเทศไทย การให้กรรมสิทธิในการถือครองห้องชุดเพื่อการประกอบธุรกิจและอยู่อาศัย เป็นต้น

การพัฒนาไทยให้เป็น Financial Hub เป็นโอกาสของไทยที่จะสามารถดึงดูดผู้ประกอบธุรกิจทางการเงินต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนในไทย พัฒนาภาคการเงินของประเทศไทย รวมทั้งสร้างโอกาสให้แก่แรงงานไทยดังนี้

1. พัฒนาระบบการเงินและนวัตกรรมทางการเงิน สร้างไทยเป็นศูนย์กลางทางการเงิน โดยการเข้ามาของผู้ประกอบธุรกิจทางการเงินระดับโลกจะนำมาซึ่งการพัฒนาเทคโนโลยีทางการเงินช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการเงินได้สะดวกและทันสมัย ทำให้ไทยระบบนิเวศน์การเงินที่ทันสมัย เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค โดยไทยจะเป็นประเทศต้นๆ ในโลกที่เปิดกว้างสำหรับธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลใน Financial Hub

2. พัฒนาทักษะแรงงานไทย การเข้ามาของผู้ประกอบธุรกิจทางการเงินระดับโลกจะช่วยถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยี และทักษะทางการเงินที่ทันสมัย และเปิดโอกาสให้แรงงานไทยได้ทำงานในบริษัทชั้นนำและพัฒนาศักยภาพของตนเอง

3. สร้างโอกาสการจ้างงานและรายได้ที่สูง โดยเฉพาะในสายงานที่เกี่ยวข้องกับการเงิน เทคโนโลยี และบริการสนับสนุนด้านการเงิน เป็นการส่งเสริมอาชีพที่มีรายได้สูง แรงงานไทยมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น

4. เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ เนื่องจากการลงทุนของผู้ประกอบธุรกิจต่างชาติจะกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น อาคารสำนักงาน ระบบขนส่ง เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น และทำให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเชื่อมโยงกับธุรกิจทางการเงินเพื่อขยายโอกาสการเติบโต

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • พิชัย พบทูตฟิลิปปินส์  ขยายส่งออกข้าว-เร่งปิดดีลเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียนปีนี้ พิชัย พบทูตฟิลิปปินส์ ขยายส่งออกข้าว-เร่งปิดดีลเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียนปีนี้
  • ภาครัฐ-เอกชนผนึกกำลัง ปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ ภาครัฐ-เอกชนผนึกกำลัง ปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่
  • สบน.-ก.ล.ต.ออกกฏหมายลูกรองรับ G-Token วงเงิน5พันล้าน สบน.-ก.ล.ต.ออกกฏหมายลูกรองรับ G-Token วงเงิน5พันล้าน
  • คลังลงพื้นที่โครงการปรับปรุงท่าเรือภูเก็ต-โครงการพัฒนาที่ราชพัสดุ จ.ภูเก็ต คลังลงพื้นที่โครงการปรับปรุงท่าเรือภูเก็ต-โครงการพัฒนาที่ราชพัสดุ จ.ภูเก็ต
  • S&P คงอันดับความน่าเชื่อถือไทยที่ระดับ BBB+ คาดจีดีพีปี 68 โต 2.3% S&P คงอันดับความน่าเชื่อถือไทยที่ระดับ BBB+ คาดจีดีพีปี 68 โต 2.3%
  • ส่งออกเริ่มชะลอตัวจากสงครามการค้าในไตรมาส 2 ส่งออกเริ่มชะลอตัวจากสงครามการค้าในไตรมาส 2
  •  

Breaking News

'สุวัจน์'ชูครัวอีสาน อาหารไทยกู้ภัยเศรษฐกิจ

พิชิต'ออฟฟิศซินโดรม' ทางออกสำหรับคนวัยทำงานยุคดิจิทัล

(คลิป) กองทัพอากาศ'ไทย-อินโดนีเซีย' ซ้อมรบร่วม พื้นที่อีสานตอนใต้

(คลิป) ‘อิ๊งค์’ขึงขัง! กร้าวไทยมีศักดิ์ศรี ไม่ยอมถูกข่มขู่

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved