นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์กรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีนโยบายให้กรมการค้าภายใน กำกับดูแลราคาสินค้าเกษตรให้มีเสถียรภาพ เพื่อเป็นการยกระดับรายได้ให้กับเกษตรกรไทย และกำกับดูแลให้การซื้อขายสินค้าเกษตรภายในประเทศเกิดความเป็นธรรม จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจ กรมการค้าภายใน บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด นายตรวจชั่งตวงวัด และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทุกภาคส่วน ตรวจสอบกำกับดูแลผู้ประกอบการรับซื้อสินค้าเกษตรทั่วประเทศ โดยเฉพาะมันสำปะหลังที่ผลผลิตกำลังออกสู่ตลาด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทางการค้า 

โดยที่ผ่านมาได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบตามจังหวัดที่เป็นแหล่งเพาะปลูกมันสำปะหลังสำคัญ เช่น นครราชสีมา สระแก้ว สุรินทร์ ขอนแก่น กำแพงเพชร พิษณุโลก และอุบลราชธานี รวมถึงเข้มงวดการขนย้ายมันสำปะหลังตามพื้นที่พรมแดนติดประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่องไปแล้วนั้น ล่าสุดระหว่างวันที่ 3-7 กุมภาพันธ์ 2568 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจ กรมการค้าภายใน ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด และนายตรวจชั่งตวงวัด ตรวจสอบสถานการณ์การรับซื้อมันสำปะหลังของผู้ประกอบการที่รับซื้อมันสำปะหลังและที่เข้าร่วมโครงการเพิ่มช่องทางการตลาดสินค้าพืชไร่ ปีการผลิต 2568 ของกรมการค้าภายใน ในพื้นที่นครราชสีมา และชัยภูมิ พบว่า ราคารับชื้อหัวมันสำปะหลังสดในพื้นที่อยู่ที่ราคา 1.9-2.20 บาท/กก. ที่เชื้อแป้ง 25% อีกทั้งผู้ประกอบการยังให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด มีการแสดงราคารับซื้อที่ชัดเจนและเปิดเผย ใช้เครื่องชั่งน้ำหนักและเครื่องวัดเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้งที่เป็นไปตามมาตรฐานที่กรมการค้าภายในกำหนด และในการตรวจสอบการขนย้ายสินค้ามันสำปะหลังในเขตพื้นที่ติดพรมแดนประเทศเพื่อนบ้าน พบว่า ผู้ประกอบการขนย้าย มีการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ขอฝากถึงเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ขอให้ปลูกและเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังที่ครบอายุ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและได้รับราคาที่สูงขึ้น เนื่องจากราคารับซื้อจะขึ้นอยู่กับคุณภาพและเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้งของมันสำปะหลัง และให้เกษตรกรรักษาสิทธิ์ของตนเองในการนำผลผลิตมาจำหน่ายให้ผู้รับซื้อ โดยทุกครั้งจะต้องมีการวัดเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้ง เพื่อจะได้ราคาที่ยุติธรรม และขอให้เกษตรกรมั่นใจในการนำผลผลิตมาขาย ซึ่งกรมการค้าภายใน จะส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจ ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด และนายตรวจชั่งตวงวัด ลงพื้นที่ตรวจสอบกำกับดูแลลานรับซื้อใช้เครื่องชั่งน้ำหนัก เครื่องวัดเปอร์เซ็นต์ซื้อแป้งที่ได้มาตรฐานตามที่กำหนด และขอให้ผู้รับซื้อหมั่นสังเกตเปลี่ยนน้ำที่ใช้สำหรับการวัดเชื้อแป้งอย่างน้อยหลังจากการวัดเชื้อแป้งแล้ว 4-5 ครั้ง เพื่อไม่ให้มีสิ่งเจือปนหรือดินอยู่ในน้ำที่จะเป็นสาเหตุทำให้เปอร์เซ็นต์เชื้อแป้งที่วัดได้ต่ำลง และขอเตือนให้ผู้ประกอบการรับซื้อสินค้าเกษตรปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

อย่างไรก็ดีหากพบว่ามีการกดราคารับซื้อ ต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีไม่แสดงราคารับซื้อตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขการรับซื้อหรือมีการคิดค่าชั่งน้ำหนักสินค้าเกษตรที่รับซื้อ หรือลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 กรณีใช้เครื่องชั่งตวงวัดที่ไม่มีเครื่องหมายรับรองหรือคำรับรองสิ้นอายุในการซื้อขายสินค้า ต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีโกงเครื่องชั่งหรือใช้เครื่องชั่งตวงวัดที่มีการดัดแปลงแก้ไข ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท ตามพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ.2542 หากเจ้าหน้าที่ตรวจพบจะดำเนินคดีอย่างเข้มงวด

ทั้งนี้หากเกษตรกรรายใดไม่ได้รับความเป็นธรรมในการขายหัวมันสำปะหลังสด หรือพบเห็นการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น ไม่แสดงราคารับซื้อ และไม่วัดเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้ง สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ

-032