ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics เผยว่า ตลาดเสริมความงามเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลกโดยเฉพาะหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้กระแสการดูแลภาพลักษณ์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น และด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพและราคาถูกลง ทำให้บริการเสริมความงามสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ตามการคาดการณ์ของสถาบันวิจัย Grand View Research ตลาดเสริมความงามทั่วโลกจะมีมูลค่ากว่า 5 ล้านล้านบาทในปี 2567 และขยายตัวเป็น 11.5 ล้านล้านบาทในปี 2573 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 15% ต่อปี
สำหรับประเทศไทย ในช่วงที่ผ่านมาอุตสาหกรรมเสริมความงามขยายตัวอย่างรวดเร็วตามกระแสโลก สอดคล้องกับการประเมินของ ttb analytics ที่รวบรวมข้อมูลรายได้ผู้ประกอบในช่วงปี 2562-2566 พบว่ารายได้เติบโตเฉลี่ยที่ 14% ต่อปีแต่ในปี 2567 คาดว่าจะเติบโต 4% จากปี 2566 ด้วยมูลค่าตลาด 73,000 ล้านบาท ประเมินว่าปี 2568 คาดว่าอุตสาหกรรมเสริมความงามจะขยายตัวต่ำอยู่ที่ 2.7% โดยมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 75,000 ล้านบาท
สาเหตุที่ทำให้แนวโน้มอุตสาหกรรรมเสริมความงามของไทยไม่โตไปตามกระแส เนื่องมาจากปัจจัยฉุดรั้งสำคัญ ได้แก่ 1) ภาวะอิ่มตัวของกลุ่มผู้มีกำลังซื้อ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าหลักในผู้หญิงวัยทำงาน 2) ราคาค่าบริการที่ค่อนข้างสูงถือเป็นอุปสรรคในการเข้าถึงบริการ และ 3) กำลังซื้อผู้บริโภคที่ถูกจำกัดด้วยรายได้ของคนไทยที่เพิ่มขึ้นช้า
แม้ว่าจะมีแรงกดดันตลาดผู้บริโภคไทยมากขึ้น แต่ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลความงามมากขึ้น จึงไม่ได้เป็นข้อจำกัดในการใช้บริการด้วยการศึกษาเชิงลึกถึงพฤติกรรมผู้บริโภคของ ttb analytics พบ 3 ประเด็นที่น่าสนใจ ดังนี้
1.ตลาดกลุ่มผู้ชายได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งมีอัตราการขยายตัวสูงถึง 65% ขณะที่กลุ่มลูกค้าผู้ชายวัยทำงานซึ่งถือเป็นสัดส่วนหลักของตลาดก็ขยายตัวที่ 20%ซึ่งสอดคล้องกับกระแสการหันมาดูแลตัวเองของผู้ชายทั่วโลกมากขึ้น
2.ตลาดกลุ่มอายุ 50 ปีขึ้นไป กำลังกลายเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง ด้วยความพร้อมทางการเงินที่มากกว่ากลุ่มวัยอื่นๆ ทำให้กลุ่มนี้เป็นทั้งโอกาสและความท้าทายสำหรับธุรกิจเสริมความงาม
3.ตลาดกลุ่มผู้บริโภคหน้าใหม่มีแนวโน้มตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมของคนไทยนิยมซื้อสินค้าหรือบริการที่สามารถผ่อนชำระได้หลายงวด ซึ่งช่วยลดภาระจากการจ่ายเงินก้อนครั้งเดียว
โดยสรุป ตลาดเสริมความงามในประเทศไทยถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง ภายใต้กระแสความนิยมในการดูแลและปรับปรุงภาพลักษณ์ แม้จะเผชิญกับความท้าทายจากข้อจำกัดด้านอุปสงค์ในกลุ่มลูกค้าหลักที่ชะลอตัว แต่หากพิจารณาในระยะยาวตลาดยังคงมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการขับเคลื่อนจากนวัตกรรมทางเทคโนโลยี กระแสการใส่ใจสุขภาพความงาม และการขยายกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายมากขึ้น ควบคู่ไปกับการแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้นเพื่อดึงดูดลูกค้าที่ต้องการความพึงพอใจมากขึ้นในด้าน“มาตรฐาน ความปลอดภัย และคุณภาพ” จะกลายเป็นกลยุทธ์ที่มีอิทธิพลต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมเสริมความงามในอนาคต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี