นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้เดินทางมาประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่นครพนม เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวของนครพนมและจังหวัดใกล้เคียง พร้อมยกระดับเมืองน่าเที่ยว ตามนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองของรัฐบาล ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย “คมนาคมเพื่อโอกาสประเทศไทย” ของกระทรวงคมนาคมด้วย

ทั้งนี้ หลังจากที่หน่วยงานต่างๆได้ร่วมกันผลักดันให้มีสายการบินเปิดเส้นทางบินมายังท่าอากาศยานนครพนมเพิ่ม สายการบินไทยไลอ้อนแอร์มีความพร้อมที่จะเปิดเส้นทางบินในเส้นทางดอนเมือง-นครพนม-ดอนเมือง สัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน ภายในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดสนุก (สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร) ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีพื้นที่โดดเด่นด้าน 3 ธรรม คือ ธรรมะ ธรรมชาติ วัฒนธรรม และมีกิจกรรมงานประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์

โดยปี 2567 มีนักท่องเที่ยวเดินทางมานครพนมมากถึง 2,204,220 คน เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 2 ล้านคนและพบว่ามีผู้เดินทางท่องเที่ยวในนครพนมและจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งเดินทางเชื่อมต่อไปยังแขวงคำม่วน สปป.ลาว โดยใช้บริการท่าอากาศยานนครพนมถึง 343,057 คน จาก 2,116 เที่ยวบินต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับแนวทางส่งเสริมการเปิดเส้นทางบินมายังนครพนมนั้น ได้ขอความร่วมมือหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมการขนส่งทางบก และบริษัท ขนส่ง จำกัด พิจารณาเส้นทางและจัดรถโดยสารสาธารณะ สำหรับบริการผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวในการเดินทางเชื่อมต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ให้ได้รับความสะดวก มีจำนวนเพียงพอ และสอดคล้องกับตารางการบิน รวมถึงจัดรถสาธารณะอำนวยความสะดวกการเดินทางเชื่อมต่อข้ามไปยัง สปป.ลาว ทั้งทางสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 และด่านท่าเรือ นครพนม และให้ท่าอากาศยานนครพนม ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ 3 จังหวัด จัดกิจกรรมเพื่อโปรโมทการท่องเที่ยวในเทศกาลสำคัญต่างๆภายในท่าอากาศยาน เพื่อสร้างความรับรู้และเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว

นอกจากนี้กระทรวงฯเร่งรัดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งในนครพนมและพื้นที่ใกล้เคียงโดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายบ้านไผ่-นครพนม เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและพัฒนาโครงข่ายคมนาคมให้มีความสมบูรณ์ เมื่อแล้วเสร็จคาดว่าในปี 2571 จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้มากกว่า 3.8 ล้านคนต่อปี และรองรับปริมาณการขนส่งสินค้ากว่า 700,000 ตันต่อปีซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจและการค้า ลดต้นทุนการขนส่ง รวมถึงเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวในนครพนมและพื้นที่ใกล้เคียง และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่

นายดนัย เรืองสอน อธิบดีกรมท่าอากาศยาน(ทย.) กล่าวว่า ทย.ได้เสนอมาตรการส่งเสริมการเปิดเส้นทางบินภายในประเทศไปยังท่าอากาศยานในสังกัด ทย.โดยการลดค่าบริการการขึ้น-ลงของอากาศยาน และค่าบริการที่เก็บอากาศยาน 50% เป็นเวลา 3 เดือน สำหรับสายการบินใหม่ที่ไม่เคยให้บริการเที่ยวบินแบบประจำ(มีกำหนดการเดินทาง/ออกจาก) มายังท่าอากาศยานนั้น หรือเคยทำการบินแต่ได้หยุดบินไปแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปีและลดค่าบริการการขึ้น-ลงของอากาศยานและค่าบริการที่เก็บอากาศยาน 50% เป็นเวลา 1 ปี สำหรับเส้นทางบินใหม่ที่ไม่เคยมีบริการเที่ยวบินแบบประจำ (มีกำหนด) ที่มีเส้นทางเชื่อมต่อกับท่าอากาศยานนั้น หรือเคยทำการบินแต่ได้หยุดบินไปแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี โดยจะเร่งดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อพัฒนาเส้นทางบินภายในประเทศต่อไป

โดยปัจจุบันอาคารที่พักผู้โดยสารท่าอากาศยานนครพนมสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 600 คนต่อชั่วโมง หรือ 1.7 ล้านคนต่อปี คาดว่าหลังจากที่สายการบินไทยไลอ้อนแอร์เปิดเส้นทางบินมายังท่าอากาศยานนครพนมจะทำให้มีเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 18.48% และมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 32.99% จากปี 2567