นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกมุ่งมั่นในการยกระดับการให้บริการประชาชนให้ได้รับความสะดวก รวดเร็วในการติดต่อทำธุรกรรมกับภาครัฐ ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่าธรรมเนียมในการตรวจสอบประวัติฯ และยังเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนได้เข้าสู่อาชีพขับรถสาธารณะได้เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งการขอรับหรือขอต่อใบอนุญาตขับรถสาธารณะนอกจากการเตรียมเอกสารหลักฐาน การดำเนินการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย อบรม สอบข้อเขียนที่ต้องเข้ามาดำเนินการที่สำนักงานขนส่งแล้ว อีกหนึ่งขั้นตอนที่มีความสำคัญคือการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม ในอดีตต้องดำเนินการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือพิสูจน์หลักฐานจังหวัดเท่านั้น แต่ปัจจุบันกรมฯ ได้พัฒนาระบบบูรณาการฐานข้อมูลประชาชนและการบริการภาครัฐผ่าน Linkage Center ของกรมราชทัณฑ์ในการตรวจสอบข้อมูลประวัติอาชญากรรม โดยผู้ที่ต้องการขอรับหรือต่อใบอนุญาตขับรถสาธารณะ หรือใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถ สามารถตรวจสอบประวัติอาชญากรรมเป็นหลักฐานประกอบการขอรับและต่อใบอนุญาตฯ ได้ที่กรมการขนส่งทางบกและสำนักงานขนส่งทั่วประเทศโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

การดำเนินการขอรับใบอนุญาตขับรถสาธารณะใหม่ ให้เตรียมเอกสารหลักฐาน ดังนี้ 1. บัตรประจำตัวประชาชน 2. ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลที่ไม่สิ้นอายุ 3. ใบรับรองแพทย์ 4. หลักฐานการอบรมผ่าน e-Learning 4 ชั่วโมง (หากยังไม่ได้อบรม e-Learning ล่วงหน้า ต้องทำการนัดอบรมที่สำนักงานก่อนจึงจะสอบข้อเขียนได้)

รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า สำหรับการพัฒนาระบบดังกล่าวเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีอาชีพขับรถสาธารณะได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยขั้นตอนการขอรับใบอนุญาตขับรถสาธารณะใหม่ สามารถดำเนินการตั้งแต่ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม ยื่นคำขอ ตรวจสอบหลักฐาน ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย อบรม 4 ชั่วโมง (อบรม e-Learning หรือ อบรมที่สำนักงาน ก็ได้) สอบข้อเขียน E – exam ทั้งนี้ หากสอบผ่านทุกขั้นตอนสามารถชำระค่าธรรมเนียม (ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์สาธารณะ 155 บาท ใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ 305 บาท ) และดำเนินการถ่ายรูปออกใบอนุญาตฯ เสร็จสิ้นภายในวันเดียวได้เลย

- 030