“นภินทร” หารือนักธุรกิจรายใหญ่ในสิบสองปันนา ทั้งธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจนำเข้าสินค้าเกษตร และธุรกิจร้านอาหาร ที่ต้องการเป็นคู่ค้ากับไทย รวมถึงต้องการเชิญชวนผู้ประกอบการไทย นำสินค้าของไทยมาวางจำหน่ายในสิบสองปันนา และนักธุรกิจรายใหญ่ในสิบสองปันนาก็ต้องการนำเข้าสินค้าเกษตรไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผลไม้   

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วยนางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้เชิญนักธุรกิจในสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน มาพบหารือถึงความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างสิบปันนากับศไทย เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์มีหน้าส่งเสริมการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการไทย โดยการหาตลาดใหม่ๆ ให้กับสินค้าไทย

โดยสิบสองปันนาเป็นเมืองเศรษฐกิจที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เพราะมีจุดเด่นด้านวัฒนธรรมที่ผสมผสานกันระหว่างไทยกับจีน ซึ่งถือว่ามีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกัน กระทรวงพาณิชย์ได้เล็งเห็นถึงการขยายโอกาสทางการค้า จึงได้เชิญนักธุรกิจในสิบสองปันนามาแลกเปลี่ยนทางการค้าร่วมกัน โดยมีบริษัท ไห่เชิง โฮลดิ้ง จิ่งหลาน เทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจครบวงจรในสิบสองปันนา ทั้งตลาดและท่องเที่ยว ซึ่งถือว่าเป็นรายใหญ่ของสิบสองปันนา บริษัท หลงเล่อฟู้ด จำกัด เป็นผู้ประกอบการร้านอาหารในสิบสองปันนา และบริษัท สิบสองปันนา ไทปันนา เทรดดิ้ง จำกัด เป็นผู้ประกอบธุรกิจด้านการนำเข้าสินค้ามาจำหน่ายในสิบสองปันนาและมณฑลใกล้เคียง

นายนภินทร กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้ง 3 บริษัทมีความยินดีที่จะทำการค้ากับไทย ซึ่งในปัจจุบันได้มีการนำเข้าสินค้าไทยมาขายอยู่บ้าง แต่มีความต้องการที่จะขยายปริมาณและเพิ่มสินค้าที่น่าสนใจของไทย และมากไปกว่านั้น ผู้ประกอบการมีความต้องการที่จะเชื่อมโยงกับไทยโดยจะเชิญผู้ประกอบการไทยนำสินค้ามาจำหน่ายในสิบสองปันนา เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้สิบสองปันนา โดยบริษัท ไห่เชิง โฮลดิ้ง จิ่งหลาน เทรดดิ้ง จำกัด ยินดีต้อนรับผู้ประกอบการไทย เข้าร่วมในตลาดกลางคืนร่วมกันจัดตลาดไทยจีน และมีความสนใจไปลงทุนสร้างแลนด์มาร์คในจังหวัดเชียงราย ซึ่งถือว่าเป็นข่าวดีของไทยในการเพิ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน

นอกจากนี้บริษัท สิบสองปันนา ไทปันนา เทรดดิ้ง จำกัด มีศูนย์กระจายสินค้าในเขตนครคุนหมิง ต้องการให้ไทยเป็นศูนย์การกระจายสินค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเป็นการผลักดันการส่งออก และสร้างความสมดุลทางการค้า 2 ฝ่าย โดยบริษัทดังกล่าวยังเป็นผู้นำเข้าสินค้าจากไทยมาจำหน่ายในมณฑลยูนนาน โดยที่ผ่านมายอดขายทุเรียนพรีเมียมของไทย เติบโต 30% ต่อเดือน จึงอยากจะเพิ่มปริมาณนำเข้าทุเรียนและมังคุดจากไทย และสนใจที่จพนำเข้าสินค้าเกษตรอื่นๆของไทยด้วย

“กลุ่มผู้ประกอบการสิบสองปันนา ให้ความสำคัญกับนโยบายเศรษฐกิจและการค้าของทั้ง 2 ประเทศ อยากให้กระทรวงพาณิชย์ใช้มาตรการอำนวยความสะดวกทางการค้าข้ามพรมแดน ทั้งเรื่องมาตรฐาน โดยเฉพาะสินค้าเกษตร และการขนส่งโลจิสติกส์ one belt one road โดยทั้งไทยและสิบสองปันนา มีข้อได้เปรียบในการขนส่งสินค้า เนื่องจากมีเส้นทางที่อำนวยความสะดวกด้านการขนส่ง คือเส้นทาง R3A  ที่เป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างไทยและยูนนาน โดยข้อเสนอต่างๆทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จะดำเนินการต่อ โดยการนัดหมายนักธุรกิจเพื่อจับคู่กับนักธุรกิจไทยในการค้าการลงทุนต่อไป“นายนภินทร กล่าว
-033