พาณิชย์ ถก มณฑลยูนนาน สร้างความมั่นใจทุเรียนไทย

พาณิชย์ ถก มณฑลยูนนาน สร้างความมั่นใจทุเรียนไทย

วันจันทร์ ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2568, 09.59 น.

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำคณะเดินทางเยือนมณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน และเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 ได้หารือกับนายหลิว หย่ง รองผู้ว่าการมณฑลยูนนาน และคณะผู้บริหารระดับสูงของมณฑลยูนนาน ได้แก่หน่วยงาน กรมคมนาคมยูนนาน กรมศุลกากรคุนหมิง และบริษัทการรถไฟจีน-คุนหมิง โดยเน้นย้ำการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และคมนาคมระหว่างสองประเทศ

นายนภินทร เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้เข้าพบหารือกับผู้บริหารระดับสูงมณฑลยูนนาน ในช่วงระหว่างเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมณฑลยูนนานถือว่ามีความสำคัญทางการค้ากับไทย ด้วยนโยบายของประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ที่ต้องการให้ยูนนานเป็นประตูการค้าสู่เอเชียใต้และอาเซียน จึงได้เน้นการพัฒนาด้านคมนาคม โลจิสติกส์ และการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งไทยก็มีนโยบายทำการค้ากับจีน โดยเฉพาะหัวเมืองอย่างมณฑลยูนนาน ที่ผ่านมาไทยและยูนนานต่างก็มีความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องมาอย่างยาวนาน และทางรัฐบาลไทย โดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเยือนยูนนานเพื่อเข้าร่วมการประชุม GMS และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ก็นำคณะเยือนยูนนานเช่นกัน นอกจากนี้ คณะผู้บริหารยูนนานก็เดินทางมาเยือนไทยอย่างต่อเนื่องเพื่อแลกเปลี่ยนทางการค้าระหว่างกัน


ทั้งนี้ที่ประชุมได้มีการหารือร่วมกันเรื่องการอำนวยความสะดวกสินค้าเกษตรไทย โดยเฉพาะทุเรียนที่กำลังจะเข้าสู่จีนเป็นจำนวนมาก จึงได้ขอให้ศุลกากรจีนอำนวยความสะดวกทางการค้าในการขนส่งทุเรียนไทยมายังจีน โดยเสนอให้จีนพิจารณาเกี่ยวกับการตรวจสอบสารตกค้างในผลไม้ที่นำเข้าสู่จีน โดย ไทยได้ยืนยันว่าได้ดำเนินมาตรการเรื่องสินค้าทุเรียนอย่างเคร่งครัด โดยมีมาตรการ “4ไม่” คือ ไม่ตัดอ่อน ไม่มีศัตรูพืช ไม่สวมสิทธิ์ ไม่มีสารเคมีต้องห้าม และปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบคุณภาพเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตลาดจีน จึงเสนอให้จีนลดมาตรการตรวจสารตกค้างจาก 100% เป็น 30% เพื่อให้การค้าขายดำเนินไปอย่างราบรื่น โดยทางศุลกากรคุนหมิง ระบุว่าจะเสนอเรื่องนี้ต่อรัฐบาลกลางในเร็วนี้“

นอกจากนี้ได้มีการพูดคุยถึงระบบการคมนาคม โดยการพัฒนาเส้นทางคมนาคมเชื่อมต่อไทย-จีน โดยมีแผนเร่งรัดโครงการก่อสร้างทางหลวงคุนหมิง-เชียงราย(เชียงของ) หรือ Motor way เพื่อเชื่อมต่อ เส้นทาง R3A บ่อเต็น-ห้วยทราย ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างอนุมัติโครงการจากรัฐบาลจีน หากสำเร็จจะช่วยลดระยะเวลาการเดินทางและลดต้นทุนโลจิสติกส์และจะทำให้ยูนนานเป็นศูนย์รวมกระจายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียใต้ และจะทำให้ไทยได้ประโยชน์ในการส่งสินค้าไทยได้มากขึ้นรวมถึงโครงการรถไฟจีน-ลาว-ไทย ซึ่งมีความก้าวหน้ามากขึ้น การเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจและการค้าผ่านทางระบบคมนาคม เป็นโครงการเชิงยุทธศาสตร์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองประเทศในการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจและคมนาคมให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในโอกาสครบรอบ 50 ปีของความสัมพันธ์ไทย-จีน“

ขณะเดียวกันการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล และการค้าในแพลตฟอร์มออนไลน์ ทั้งไทยและยูนนานให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นอีกกลไกทางการค้าที่จะทำให้เกิดมูลค่ามหาศาล ซึ่งปัจจุบันสินค้าจีนจำนวนมากถูกส่งมายังไทยผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่ง ไทยได้ให้ความสำคัญกับมาตรฐานสินค้า โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซ ซึ่งปัจจุบันสินค้าจีนที่จำหน่ายในประเทศไทยบางรายการยังไม่ได้จดทะเบียนในไทย จึงได้เสนอให้รัฐบาลจีนประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนธุรกิจในไทยเพื่อความโปร่งใส เพื่อดำเนินธุรกิจได้อย่างถูกกฎหมายในไทย ซึ่งทางยูนนานยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับไทย และเห็นด้วยกับการทำการค้าที่มีคุณภาพ”

นอกจากนี้ นายนภินทร ยังกล่าวว่า ไทยตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 45 ล้านคนในปีนี้ หากโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมได้รับการพัฒนาจะทำให้ไทยและยูนนานได้มีการแลกเปลี่ยนทั้งสอนค้าและนักท่องเที่ยวระหว่างกัน โดยก่อนเสร็จสิ้นการหารือ ไทยได้เชิญผู้ประกอบการยูนนานเข้าร่วมงาน THAIFEX-Anuga Asia 2025 และ Bangkok Gems and Jewelry Fair ในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งทางยูนนานให้ความสนใจและตอบรับเข้าร่วมทุกงาน

“การหารือครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยและมณฑลยูนนาน โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ การค้า คมนาคม และดิจิทัล เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ และเป็นการตอกย้ำถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทยและจีนในโอกาสครบรอบ 50 ปีของความสัมพันธ์ทางการทูต ซึ่งเป็นหลักฐานที่ชัดเจนถึงความร่วมมือที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและพร้อมก้าวสู่อนาคตไปด้วยกัน” นายนภินทร กล่าว

- 030 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top