นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทำการสำรวจลู่ทางการค้า และโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ตามนโยบายนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดได้รับรายงานจากนางสาวอนงค์นารถ มหาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมิลาน อิตาลี ถึงผลการสำรวจงานแสดงสินค้าเครื่องสำอางและธุรกิจความงามระดับโลก COSMOPROF Worldwide Bologna 2025 ครั้งที่ 56 และความสำเร็จของสินค้าเครื่องสำอางไทย ที่มีโอกาสในการเจาะตลาดอิตาลี รวมถึงเทรนด์เครื่องสำอางที่จะกำลังเติบโตในตลาดอิตาลี

ทั้งนี้ ทูตพาณิชย์รายงานว่า ได้เดินทางไปสำรวจการจัดงาน COSMOPROF Worldwide Bologna 2025 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-23 มีนาคม 2568 ณ เมืองโบโลญญา อิตาลี พบว่า มีผู้เข้าชมงานกว่า 255,000 ราย จาก 150 ประเทศ มีบริษัทชั้นนำด้านความงามและสุขภาพจำนวน 3,128 ราย ที่ได้นำเสนอแบรนด์มากกว่า 10,000 แบรนด์ จาก 65 ประเทศ ได้แก่ ฝรั่งเศส เยอรมนี กรีซ นอร์เวย์ โปรตุเกส จีน ญี่ปุ่น อินเดีย สิงคโปร์ และไทย เป็นต้น โดยมีธีมจัดงานหลัก คือ ความยั่งยืน

โดยสินค้าที่จัดแสดงในงาน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ Cosmopack งานแสดงสินค้าสำหรับซัปพลายเชนของอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง มุ่งเน้นการนำเสนอวัตถุดิบ ส่วนผสม บรรจุภัณฑ์ หุ่นยนต์ และเครื่องจักร Cosmo Perfumery & Cosmetics ครอบคลุมตั้งแต่ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ น้ำหอม ไปจนถึง แบรนด์ระดับพรีเมียมและเทคโนโลยีความงามปัญญาประดิษฐ์ และความเป็นจริงเสมือน (Virtual Reality) นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเล็บและผม

สำหรับแนวโน้มของสินค้าเครื่องสำอางที่นำมาจัดแสดงในงาน พบว่า ทิศทางของอุตสาหกรรมกำลังมุ่งสู่ความมีจริยธรรมและความรับผิดชอบมากขึ้น แบรนด์ต่าง ๆ หันมาใช้ส่วนผสมจากพืชและสื่อสารแนวคิดและแนวปฏิบัติเหล่านี้อย่างชัดเจนผ่านบรรจุภัณฑ์และเรื่องราวของแบรนด์ รวมทั้งบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนการใช้วัสดุที่ปลอดจากส่วนผสมจากสัตว์ และวีแกน ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นสวนการเยี่ยมชมสินค้าเครื่องสำอางและธุรกิจความงามของผู้ประกอบการไทย ที่เข้าร่วมงานแสดงสินค้า มีจำนวน 3 ราย ได้แก่ บริษัท โซป เอ็น เซนท์ จำกัด เข้าร่วมโครงการ SMEs Pro-active ภายใต้การส่งเสริมของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ แลบบอราทอรี่ แอนด์ เฮลท์แคร์ จำกัด และบริษัท คริสโก้ (ประเทศไทย) จำกัด ที่มาร่วมออกงานแสดงสินค้าเอง โดยสินค้าของผู้ประกอบการไทย ได้รับความสนใจ และมีโอกาสในการขยายตลาดเข้าสู่อิตาลี

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ประกอบการไทยรายอื่น ๆ ที่สนใจจะทำตลาดสินค้าเครื่องสำอางในอิตาลี จะต้องศึกษากฎหมายและกฎระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การปฏิบัติตามข้อบังคับของสหภาพยุโรป โดยเฉพาะระเบียบ (EC) No 1223/2009 ซึ่งกำหนดให้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางต้องผ่านการประเมิน ความปลอดภัยก่อนที่ขายตามท้องตลาด ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิต (GMP) และการแจ้งผลิตภัณฑ์ในระบบ CPNP (EU Cosmetic Products Notification Portal) ก่อนที่จะเริ่มนำขาย และฉลากต้องเป็นภาษาอิตาเลียน มีข้อมูลสำคัญ เช่น ส่วนประกอบ วิธีใช้ และข้อมูลเกี่ยวกับผู้รับผิดชอบ เพื่อรับประกันความปลอดภัยของผู้บริโภคและส่งเสริมการพัฒนาในอุตสาหกรรมนี้ เป็นต้น

ขณะเดียวกัน ต้องให้ความสำคัญกับการผลิตแบบยั่งยืน การใช้วัตุดิบที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพกระบวนการการผลิตและการตลาด ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะช่วยเสริมความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยได้เพิ่มขึ้น และควรเข้าร่วมงานแสดงสินค้า เพื่อแนะนำสินค้า พบปะเจรจาธุรกิจ และศึกษาแนวโน้มของอุตสาหกรรมความงามในตลาดโลกด้วย

- 030