วันจันทร์ ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
ส.อ.ท.หนุนรัฐดันสมุนไพรไทยสู่ระบบบริการสุขภาพ นำไทยสู่ Hub อาเซียน

ส.อ.ท.หนุนรัฐดันสมุนไพรไทยสู่ระบบบริการสุขภาพ นำไทยสู่ Hub อาเซียน

วันอังคาร ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 13.14 น.
Tag : บริการ ส.อ.ท. สมุนไพร สุขภาพ อาเซียน HUB
  •  

นายสิทธิชัย แดงประเสริฐ  ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมสมุนไพร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่ภาครัฐสนับสนุนให้ยาสมุนไพรเข้าไปอยู่ในระบบบริการสุขภาพ เพื่อเป็นทางเลือกในการจ่ายยาสำหรับโรคพื้นฐานที่ไม่ใช่โรคร้ายแรงโดยไม่ได้ออกเป็นข้อบังคับนั้น ส.อ.ท. กลุ่มสมุนไพรมองว่าเป็นนโยบายที่มีข้อดีหลายด้าน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ และด้านสาธารณะสุข โดยในด้านเศรษฐกิจนั้น จะช่วยลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศได้ดีขึ้น จากข้อมูลปีงบประมาณ 2567 พบว่าการใช้ยาแผนปัจจุบันในสถานบริการสาธารณสุขของรัฐ มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 70,543 ล้านบาท โดยจำนวนนี้มีมูลค่ายาสมุนไพรเพียง 1,560 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.21%

ทั้งนี้ยาที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนำเข้าจากต่างประเทศ 90% ซึ่ง ส.อ.ท. กลุ่มสมุนไพรมีเป้าหมายต้องการผลักดันให้ประเทศไทยสามารถเพิ่มสัดส่วนการใช้ยาสมุนไพรขึ้นไปอยู่ที่ 10% ด้วยการเข้มงวดมาตรฐานการผลิต สนับสนุนให้มีโรงงานผลิตยาสมุนไพรไทยที่ได้มาตรฐาน GMP PIC/s ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีโรงงานที่ได้มาตรฐาน GMP PIC/s แล้วจำนวน 56 แห่ง จึงสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้ยาได้ว่ายาที่นำเข้าสู่ระบบเป็นยาที่ได้มาตรฐานระดับสากล และมีปริมาณเพียงพอต่อการใช้งานประมาณมากอย่างแน่นอน


นอกจากนี้การนำยาสมุนไพรไทยเข้าไปใช้ในระบบบริการสุขภาพอย่างแพร่หลายมากขึ้นนั้นเป็นการช่วยสร้างความมั่นใจให้กับต่างชาติในการยอมรับยาสมุนไพรไทยมากขึ้น ทำให้ไทยมีโอกาสส่งออกยาสมุนไพรได้มากขึ้น และมองว่าการเริ่มต้นครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นให้ไทยสามารถก้าวเข้าสู่ Hub ด้านสมุนไพรของอาเซียนได้เร็วขึ้น

ขณะเดียวกันในส่วนของข้อดีด้านสาธารณะสุขจากนโยบายนี้ยังช่วยให้คนไทยมีทางเลือกในการเข้าถึงยาที่มีราคาถูกลง รวมถึงเป็นการสร้างความมั่นคงด้านยารักษาโรคให้ประเทศชาติโดยเฉพาะในช่วงที่เกิดวิกฤต เช่น ที่ผ่านมาในช่วงการระบาดของโรคโควิด – 19 ประเทศไทยที่ไม่มีวัคซีนและยาของตัวเองก็ทำให้เกิดปัญหา รวมถึงเหตุการณ์ที่คลองสุเอชไม่สามารถขนส่งสินค้าได้เนื่องจากมีเรือขนาดใหญ่ติดอยู่ก็ทำให้ประเทศไทยเกิดวิกฤตด้านยารักษาโรคเช่นกัน ดังนั้นการผลักดันนโยบายการใช้สมุนไพรเป็นอีกหนึ่งวิธีในการพัฒนาสมุนไพรไทย เนื่องจากหากมีการใช้อย่างแพร่หลายผู้ผลิตก็จะมีกำลังในการวิจัยและพัฒนาให้เกิดยาที่หลากหลายขึ้นจากปัจจุบันที่ยังจำกัดอยู่ที่ยารักษาโรคพื้นฐานเท่านั้น

นายศรัณย์ แจ้วจิรา นายกสมาคมผู้ผลิตยาสมุนไพร กล่าวว่า ยาสมุนไพรไทยมีประวัติการใช้อย่างยาวนาน ปัจจุบันมีงานวิจัยรองรับ มีกระบวนการทดลองทางวิทยาศาสตร์ เปรียบเทียบกับยาแผนปัจจุบัน มีประสิทธิภาพเทียบเคียงกัน และมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มากขึ้น ทั้งยังมีการผลิตที่ทันสมัยและมีมาตรฐานการผลิตที่ยอมรับในระดับสากล GMP PIC/s อย่างไรก็ตามการนำยาสมุนไพรเข้าสู่ระบบบริการสุขภาพไม่ใช่เรื่องใหม่เนื่องจากมีการใช้ยาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ มาตั้งแต่ปี2542มียาสมุนไพรที่ผ่านการยอมรับ เข้าสู่ยาบัญชียาหลัก ยาสมุนไพรแห่งชาติ 116 รายการ แบ่งเป็นกลุ่มอาการของโรค 15 กลุ่มอาการ และกลุ่มอาการของโรคส่วนมากก็จะเป็นกลุ่มอาการโรคพื้นฐาน เช่น แก้ไข้ แก้ไอ แก้หวัด หรือ แก้ท้องผูก ริดสีดวง แก้อาหารไม่ย่อย หรือโรคกระเพาะ และอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ กลุ่มอาการของโรคที่รุนแรง

ปัจจุบันภาครัฐออกนโยบายส่งเสริมการใช้สมุนไพรมากขึ้น โดยเฉพาะการระบุให้ยาแผนปัจจุบัน 5 รายการ ที่จ่ายเป็นยาสมุนไพรได้ ได้แก่ อาการปวดเมื่อย ใช้ครีมไพลทดแทนกลุ่มยาทาภายนอกลดปวด เช่น diclofenac, อาการไอ ใช้ยามะแว้งหรือยามะขามป้อมทดแทน diphenhydramine หรือ codeine, อาการท้องอืด ใช้ขมิ้นชันทดแทน simethicone, อาการท้องผูก ใช้มะขามแขกทดแทน bisacodyl และอาการริดสีดวงทวาร ใช้เพชรสังฆาตทดแทน diosmin 450 mg ร่วมกับ hesperidin 50 mg ทั้งนี้สมุนไพรเหล่านี้ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่ามีประสิทธิภาพเทียบเคียงได้เนื่องจากยาแผนปัจจุบันหลายตัวที่กล่าวมาก็มีส่วนผสมมาจากสมุนไพรอยู่แล้ว  อย่างไรก็ดียังต้องมีกระบวนการถ่ายทอดข้อมูล แก่บุคลากร แพทย์ เภสัชกร และบุคลากรสาธารณสุข ให้เกิดความรู้ความเข้าใจสมุนไพรมากขึ้น โดยเฉพาะควรให้ทราบถึงผลงานวิจัยของยาสมุนไพรแต่ละชนิดที่ผ่านกระบวนการวิจัยแลพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ มีบรรจุภัณฑ์ มีขนาดบ่งใช้กำหนดที่ได้มาตรฐาน ซึ่งแตกต่างจากสมัยโบราณที่ยังไม่ผ่านงานวิจัยและมีขนาดการใช้ไม่แน่นอนทำให้ยากต่อการรักษาโรค

“หากบุคลากรทางการแพทย์เข้าถึงข้อมูลปัจจุบันของสมุนไพรไทยเชื่อว่าจะเปิดใช้ยอมรับจะได้มีการยอมรับยาสมุนไพรมากขึ้น จะสามารถส่งเสริมการใช้ยาสมุนไพรได้มากขึ้นทีเดียว ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศทั้งผู้ปลูก โรงงานผลิต และผู้จัดจำหน่าย ปัจจุบันประเทศไทยส่งออกสมุนไพรอันดับ 1 ของอาเซียน แต่ในตลาดโลกยังไม่ติด 1 ใน 10 ดังนั้นหากระบบบริการสุขภาพของไทยหันมาใช้สมุนไพรเป็นทางเลือกก็จะเป็นจุดที่สร้างมั่นใจให้คนในประเทศยอมรับสมุนไพรมากขึ้น และเกิดแรงส่งไปสู่ตลาดส่งออกได้” นายศรัณย์ กล่าว

- 030 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • PHOL เผย Q2รายได้พุ่งทะลุ 247 ล้านบาท PHOL เผย Q2รายได้พุ่งทะลุ 247 ล้านบาท
  • ส.อ.ท. ชี้อยากเห็นการเมืองนิ่ง หลังปัจจัยลบฉุดเศรษฐกิจร่วง ส.อ.ท. ชี้อยากเห็นการเมืองนิ่ง หลังปัจจัยลบฉุดเศรษฐกิจร่วง
  • ส.อ.ท.เผย กนง.ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เพิ่มขีดความสามารถภาคธุรกิจ ส.อ.ท.เผย กนง.ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เพิ่มขีดความสามารถภาคธุรกิจ
  • ส.อ.ท.แนะวิธีรับมือภาษีสหรัฐ พร้อมขยายโอกาสการค้าไปตลาดอื่น ส.อ.ท.แนะวิธีรับมือภาษีสหรัฐ พร้อมขยายโอกาสการค้าไปตลาดอื่น
  • ส.อ.ท.ถกคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ ชงแนวทางรับมือภาษีสหรัฐฯ ส.อ.ท.ถกคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ ชงแนวทางรับมือภาษีสหรัฐฯ
  • ส.อ.ท. ผนึก เมสเซ่ฯ-3สมาคมฯ จัดงาน Pack Print International 2025 ส.อ.ท. ผนึก เมสเซ่ฯ-3สมาคมฯ จัดงาน Pack Print International 2025
  •  

Breaking News

กู้ภัยช่วยระทึก! 'คนงานเขมร'เป็นลมบนต้นทุเรียนสูง10เมตร

'Chef Fest Thailand Season 3'เปิดศึก ONE STREET, ONE LEGEND เฟ้นหาสุดยอดเชฟสตรีทฟู้ดไทย

'สมเด็จพระสังฆราช' ทรงล้ม เสด็จไปประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช

ท้าทายระบบ! ทหารหญิงเขมร อวดบังเกอร์ใหม่แนวชายแดน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved