วันพฤหัสบดี ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
สภาพัฒน์หั่นเป้า GDP ปี68 เหลือ1.8% เซ่นพิษภาษีสหรัฐ

สภาพัฒน์หั่นเป้า GDP ปี68 เหลือ1.8% เซ่นพิษภาษีสหรัฐ

วันอังคาร ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : สภาพัฒน์ จีดีพี เศรษฐกิจ ภาษี สหรัฐ
  •  

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)  หรือ สภาพัฒน์ เปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาสที่ 1 ปี 2568 และแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2568 โดยระบุว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 ขยายตัวได้ 3.1% ต่อเนื่องจากการขยายตัว 3.3 % ในไตรมาสที่ 4 ปี 2567 และเมื่อปรับผลของฤดูกาลออกแล้ว เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 1 ปี 2568ขยายตัว0.7 % จากไตรมาสที่ 4 ปี 2567  โดยเศรษฐกิจในไตรมาสนี้มาจากด้านการใช้จ่าย การส่งออกสินค้าและการลงทุนภาครัฐขยายตัวในเกณฑ์สูง การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน และการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคของรัฐบาลชะลอตัว ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนลดลงต่อเนื่อง

ส่วนการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ขยายตัว 2.6% ชะลอลงจากการขยายตัว 3.4% ในไตรมาสก่อนหน้า ตามการชะลอตัวในทุกหมวดสินค้า โดยการใช้จ่ายในหมวดสินค้าไม่คงทนขยายตัว 1.9% ชะลอลงจาก2.3% ในไตรมาสก่อนหน้า ตามการใช้จ่ายกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มเป็นสำคัญ การใช้จ่ายหมวดบริการขยายตัว 4.5 %ชะลอลงจาก 6.4% ในไตรมาสก่อนหน้า ตามการชะลอตัวของการใช้จ่ายกลุ่มโรงแรมและภัตตาคาร และกลุ่มบริการด้านสุขภาพ และการใช้จ่ายหมวดสินค้ากึ่งคงทนขยายตัว 0.9% ชะลอลงจาก 3.7% ในไตรมาสก่อนหน้า ตามการชะลอตัวของการใช้จ่ายกลุ่มเสื้อผ้าและรองเท้า และการลดลงของการใช้จ่ายเพื่อซื้อเครื่องเรือนและเครื่องตกแต่ง ขณะที่การใช้จ่ายหมวดสินค้าคงทนลดลง 1.4% ต่อเนื่องจากการลดลง 9.5% ในไตรมาสก่อนหน้า โดยการใช้จ่ายเพื่อชื่อยานพาหนะลดลง 2.0% เทียบกับการลดลง 21.2% ในไตรมาสก่อนหน้า


สำหรับดัชนีความเชื่อมันของผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ โดยรวมในไตรมาสนี้อยู่ที่ระดับ 51.5 เพิ่มขึ้นจากระดับ 50.5 ในไตรมาสก่อนหน้า การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภค ของรัฐบาลเพิ่มขึ้น3.4% ชะลอลงจากการเพิ่มขึ้น 5.4% ในไตรมาสก่อนหน้า โดยค่าซื้อสินค้าและบริการขยายตัว 9.8% รายจ่ายการโอนเพื่อสวัสดิการสังคมที่ไม่เป็นตัวเงินสำหรับสินค้าและบริการในระบบตลาดขยายตัว 6.0% และค่าตอบแทนแรงงานขยายตัว 0.9%   โดยอัตราการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำในไตรมาสนี้อยู่ที่ 23.6  % (ต่ำกว่าอัตราเบิกจ่าย 36.7 % ในไตรมาสก่อนหน้าแต่สูงกว่า 18.9 % ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน)

ทั้งนี้การลงทุนรวม ขยายตัว 4.7% ต่อเนื่องจากการขยายตัว 5.1% ในไตรมาสก่อนหน้า โดยการลงทุนภาครัฐ ขยายตัวในเกณฑ์สูงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3  ขยายตัว 26.3% ต่อเนื่องจากการขยายตัว  39.4% ในไตรมาสก่อนหน้า ตามการขยายตัวของการลงทุนรัฐบาล ในขณะที่การลงทุนรัฐวิสาหกิจลดลง สำหรับอัตราการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายลงทุนในไตรมาสนี้อยู่ที่12.8% (ต่ำกว่าอัตราเบิกจ่าย 13.4% ในไตรมาสก่อนหน้า แต่สูงกว่า 5.1% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน) ส่วนการลงทุนภาคเอกชน ลดลง 0.9%  ต่อเนื่องจากการลดลง 2.1% ในไตรมาสก่อนหน้า โดยการลงทุนในหมวดเครื่องจักรเครื่องมือลดลง0.3% เทียบกับการลดลง 1.7% ในไตรมาสก่อนหน้า ส่วนการลงทุนในหมวดก่อสร้างลดลง 3.8% ต่อเนื่องจากการลดลง 3.9% ในไตรมาสก่อนหน้า การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ 2.6%การอุปโภคภาครัฐขยายตัว 3.4% การก่อสร้างขยายตัว 16.2%

 นายดนุชา กล่าวอีกว่าส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดว่าจะขยายตัว 1.3 - 2.3 % (ค่ากลางการประมาณการอยู่ที่ 1.8 % )   โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเพิ่มขึ้นของรายจ่ายลงทุนภาครัฐ สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 รวมทั้งการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของของการบริโภคภาคเอกชน ท่ามกลางอัตราการว่างงานและอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ และการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวเนื่อง

อย่างไรก็ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยทั้งปียังมีข้อจำกัดจากภาระหนี้สินครัวเรือนและภาคธุรกิจที่อยู่ในระดับสูง และมีแนวโน้มชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ตามแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลก และผลกระทบจากการดำเนินมาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ รวมทั้งความเสี่ยงจากความผันผวนในภาคเกษตร ทั้งนี้ คาดว่าการอุปโภคบริโภคจะขยายตัว 2.4 % และการลงทุนภาคเอกชนลดลง 0.7 % ขณะที่มูลค่าการส่งออกในรูปดอลลาร์สหรัฐฯขยายตัว 1.8 % อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ในช่วง 0.0 - 1.0 % และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 2.5 % ของ GDP

สำหรับความเสี่ยของเศรษฐกิจในปีนี้ยังมาจากเศรษฐกิจภายนอกโดยเฉพาะปริมาณการค้าโลก ที่จะลดลงจากความไม่แน่นอนเรื่องของการเจรจาการค้าหลังสหรัฐฯขึ้นภาษี การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน รวมทั้งเศรษฐกิจของประเทศเกิดใหม่ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ขณะที่ในประเทศมีความเสี่ยงจากเรื่องของหนี้ครัวเรือน คุณภาพสินเชื่อต้องจับตาและต้องมีการแก้ปัญหาเพื่อไม่ให้มีการเพิ่ม NPL ภาคเกษตรยังคงเจอกับความไม่แน่นอนเรื่องของสภาพอากาศที่อาจจะมีปัญหาในแง่ของรายได้ภาคเกษตรมากขึ้น

 ทั้งนี้ สศช.ได้แนะนำการบริหารเศรษฐกิจของภาครัฐ 6 ข้อได้แก่ 1.การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อให้เม็ดเงินรายจ่ายภาครัฐเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้เร็วขึ้น เพื่อรักษาการเบิกจ่ายของภาครัฐให้ช่วยเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 1 ของปีงบประมาณ รวมทั้งเพิ่มศักยภาพทางการคลัง และสร้างเสถียรภาพ 2.การดำเนินการเพื่อรองรับการยกระดับมาตรการการกีดกันทางการค้าของประเทศ โดยเร่งการเจรจากับสหรัฐฯ ตามที่รัฐบาลได้เตรียมการไว้ในหลายด้าน รวมทั้งเร่งรัดการส่งออกสินค้าและขยายตลาดใหม่ๆ และส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง 3.การปกป้องภาคการผลิตจากการทุ่มตลาดและการใช้นโยบายการค้าที่ไม่เป็นธรรม  ใช้กฎหมายในการดำเนินการอย่างเคร่งครัด ตรวจเฝ้าระวังเรื่องของการทุ่มตลาด 4.การให้ความช่วยเหลือธุรกิจ SMEs ช่วยเหลือสภาพคล่องเพื่อไม่ให้มีการปลดคนงานออกจากการทำงาน 5.การดูแลภาคเกษตร และรายได้เกษตรกร โดยเตรียมรองรับผลผลิตสินค้าเกษตร และลงทุนแหล่งน้ำขนาดเล็ก  6.การสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ที่จะช่วยให้การท่องเที่ยวขยายตัวได้ต่อเนื่อง

 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • จีดีพีไตรมาส 1 ขยายตัว 3.1% สภาพัฒน์คาดจีดีพีปี 2568 โต 1.3-2.3% ท่ามกลางความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าโลก จีดีพีไตรมาส 1 ขยายตัว 3.1% สภาพัฒน์คาดจีดีพีปี 2568 โต 1.3-2.3% ท่ามกลางความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าโลก
  • สหรัฐฯ ทยอยขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์-ชิ้นส่วนกระทบส่งออกไทย สหรัฐฯ ทยอยขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์-ชิ้นส่วนกระทบส่งออกไทย
  • วิกฤต‘ภาษีทรัมป์’ ‘สภาพัฒน์’เผยตัวเลขเศรษฐกิจไทย หั่นเป้าจีดีพีทั้งปี โต 1.8% วิกฤต‘ภาษีทรัมป์’ ‘สภาพัฒน์’เผยตัวเลขเศรษฐกิจไทย หั่นเป้าจีดีพีทั้งปี โต 1.8%
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคงคาดการณ์ GDP ปี 68 ที่ 1.4% ขึ้นอยู่กับผลเจรจาการค้า ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคงคาดการณ์ GDP ปี 68 ที่ 1.4% ขึ้นอยู่กับผลเจรจาการค้า
  • จับตาเงิน 1.57 แสนล้าน รัฐจะใช้ยังไงเพื่อรับมือ ‘ทรัมป์2.0’ จับตาเงิน 1.57 แสนล้าน รัฐจะใช้ยังไงเพื่อรับมือ ‘ทรัมป์2.0’
  • SINO ชี้ Q2 รับผลบวกจากสหรัฐฯ หลังผู้ประกอบการเร่งนำเข้าสินค้า SINO ชี้ Q2 รับผลบวกจากสหรัฐฯ หลังผู้ประกอบการเร่งนำเข้าสินค้า
  •  

Breaking News

'หมวย อริสรา'ตรวจพบโควิดกลางรายการ 'หนุ่ม กรรชัย'นั่งเดี่ยว'เที่ยงวันทันเหตุการณ์'

(คลิป) 'อุ๊งอิ๊งค์' ไปส่วนตัวใช่ไหม? ปัญหาอยู่ 'สหรัฐ' แต่ดันไป 'อังกฤษ'

รวบหนุ่มเสพยา-ชิงแท็กซี่หนีกบดานในโรงแรม

รวบคาบ้าน! อดีตข้าราชการระดับสูง เอี่ยวขบวนการออกโฉนดรุกป่าชายเลน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved