นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์  ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดการผลิตรถยนต์ในเดือน เม.ย.68 มีทั้งสิ้น 104,250 คัน ต่ำสุดในรอบ 44 เดือน ลดลง 19.75 % จากเดือนมี.ค.68 และลดลง 0.40% จากเดือนเม.ย.67   โดยยอดผลิตลดลงไม่มาก เพราะมีการผลิตรถยนต์นั่งและรถ SUV ไฟฟ้าทั้ง BEV PHEV และ HEV ในประเทศมากขึ้นเพิ่มขึ้น  639.75%, 319.11%, 35.31% ตามลำดับ แต่ผลิตรถยนต์นั่งสันดาปภายในลดลง 33.60% เพราะผลิตรถยนต์นั่งส่งออกลดลงถึง 36.93% เนื่องจากมีการเปลี่ยนรุ่นรถยนต์บางรุ่น รถกระบะยังคงผลิตลดลง 3.06% เพราะผลิตขายในประเทศลดลง 33.16% ตามยอดขายรถกระบะในประเทศที่ยังคงลดลง 22.25%ส่งผลให้จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้4 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-เม.ย.68) มีจำนวนทั้งสิ้น 456,749 คัน ลดลง 11.96% จากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา

โดยเดือนเม.ย.ผลิตเพื่อส่งออก 2568 ได้ 67,085 คัน เท่ากับ 64.35% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลง 6.73% จากเดือนเม.ย. 67 ส่งผลให้ 4 เดือนแรกของปีนี้ ฝผลิตเพื่อส่งออกได้ 303,881 คัน เท่ากับ 66.53 % ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลง 12.07 จากช่วงเดียวกันปีก่อน

ขณะที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ เดือนเม.ย. 68 ผลิตได้ 37,165 คัน เท่ากับ 35.65% ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้น 13.52% จากเดือนเม.ย. 67 ส่งผลให้ 4 เดือนแรกของปีนี้ผลิตได้ 152,868 คัน เท่ากับ 33.47% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลง 11.72% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือน เม.ย.  68 มีจำนวนทั้งสิ้น 47,193 คัน ลดลง 15.42% จากเดือน มี.ค. 2568 แต่เพิ่มขึ้น 0.97% จากเดือน เม.ย. 67 ทั้งนี้ยอดขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการขายรถยนต์นั่งไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในขณะที่รถกระบะและรถ PPV ยังคงขายลดลง 21.7% และ 20.5% ตามลำดับจากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถกระบะจากหนี้ครัวเรือนสูงและเศรษฐกิจในประเทศที่อ่อนแอเพราะดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมยังคงลดลงจากอุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงลดลง 3.83% การลงทุนภาคเอกชนไตรมาสหนึ่งปีนี้ลดลง และจากค่าครองชีพที่ยังสูง ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง ส่งผลให้ 4 เดือนแรกปีนี้ยอดขาย 200,386 คัน ลดลง 4.80 % จากช่วงเดียวกันปีก่อน

 “ภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยในยังคงซบเซา โดยเฉพาะการส่งออกที่ลดลงต่อเนื่อง รวมถึงยอดผลิตที่ต่ำสุดในรอบ 44 เดือนจากความต้องการทั้งในและต่างประเทศที่ชะลอตัว ต้องขอเวลาอีก 1-2 เดือนจะเห็นความชัดเจนเรื่องการเจรจามาตรการภาษีกับสหรัฐฯ  โดยคาดว่ากลางปีน่าจะมีการปรับเป้าการผลิตใหม่อีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ต้องจับตาดูสถาการณ์อย่างใกล้ชิด”นายสุรพงษ์กล่าว

ขณะที่การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือน เม.ย68 ส่งออกได้ 65,730 คัน ลดลง18.77% จากเดือนที่แล้วและลดลง 6.31% จากเดือน เม.ย.67  เพราะมีการเปลี่ยนรุ่นรถยนต์นั่งบางรุ่นและการเข้มงวดในเรื่องเทคโนโลยีช่วยเหลือเรื่องความปลอดภัยและการปล่อยคาร์บอนในบางประเทศคู่ค้า รถยนต์ HEV จึงส่งออกเพิ่มขึ้น 87.96% แต่จำนวนไม่มาก จึงส่งออกลดลงในตลาดเอเชีย ออสเตรเลียตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกาเหนือ คงต้องติดตามผลการเจรจาของประเทศไทยและประเทศคู่ค้าสำคัญของประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกาต่อไป โดย เดือนเม.ย. 68 มีมูลค่าการส่งออกรถยนต์ 46,031.33 ล้านบาท ลดลง 4.39% จาก เม.ย.67 ส่งผลให้4เดือนแรกของปีนี้ ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปได้ 290,288 คัน ลดลง14.79 % จากช่วงเดียวกันปีก่อน

ส่วนยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภทไฟฟ้า ( BEV) เดือนเม.ย. 68 มียอดจดทะเบียนใหม่ 8,029 คัน เพิ่มขึ้น 32.91% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ 4 เดือนแรกกปีนี้มียอดสะสม 40,020 คัน เพิ่มขึ้น 11.93% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน  โดย ณ วันที่ 30 เมษายน 2568 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 266,863 คัน เพิ่มขึ้น 59.48% จากปีที่ผ่านมา

- 030