ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และ กรมที่ดิน กระทรวงมาหาดไทย ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อแก้ไขปัญหาการใช้คนไทยถือครองที่ดินแทนคนต่างด้าว โดยจะแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อสกัดกั้นไม่ให้คนต่างด้าวใช้คนไทยเป็นนอมินีถือครองที่ดินแทน โดยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังจากเป็นประธานและสักขีพยานร่วมกับ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่าปัจจุบันมีคนต่างด้าวเข้ามาถือครองที่ดินในประเทศไทย โดยให้คนไทยถือครองที่ดินแทน เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดของกฎหมาย นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการนำที่ดินไปใช้ประโยชน์ เช่น การประกอบธุรกิจที่ต้องห้ามสำหรับ คนต่างด้าว หรือธุรกิจที่คนไทยยังไม่พร้อมแข่งขัน และการกระทำดังกล่าวเป็นการบิดเบือนกลไกทางตลาด ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
รมช.พาณิชย์ กล่าวต่อว่า การที่ประเทศไทยเผชิญปัญหาการใช้คนไทยถือครองที่ดินแทนคนต่างด้าว เพื่อแสวงหาประโยชน์จากที่ดินในลักษณะการประกอบธุรกิจต้องห้าม เช่น ธุรกิจเกษตร ธุรกิจที่พัก ธุรกิจขายอาหารและเครื่องดื่ม เป็นพฤติกรรมที่กระทบโดยตรงต่อความมั่นคงด้านทรัพยากรของประเทศและด้านเศรษฐกิจอันเกี่ยวเนื่องกับความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการกำกับดูแลธุรกิจ และกระทรวงมหาดไทย โดยกรมที่ดินในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการบริหารจัดการที่ดินของรัฐ ได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ของการบูรณาการการทำงานร่วมกัน
ด้านนายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า บันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้จะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลคนต่างด้าวและตรวจสอบนิติบุคคลตามรายชื่อที่ได้รับแจ้งระหว่างกัน โดยเฉพาะข้อมูลนิติบุคคลที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นนอมินี และข้อมูลการถือครองที่ดินของคนต่างด้าว เป็นต้น เพื่อที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมที่ดินจะได้ดำเนินการตามภารกิจและอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับคำวินิจฉัยและข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่องร้องเรียนเลขแดงที่ 3002/2567 ทั้งนี้ พื้นที่ทางการเกษตรและทรัพยากรธรรมชาติมีความสำคัญในโครงสร้างทางเศรษฐกิจและความมั่นคงด้านที่ดิน ส่งผลต่อการพัฒนาประเทศในอนาคต การร่วมมือกันในครั้งนี้จะมีส่วนช่วยในการแก้ไขปัญหานิติบุคคล ที่มีลักษณะเข้าข่ายนอมินี ซึ่งจากนี้ไปกรมที่ดินจะนำข้อมูลที่เชื่อมโยงกันครั้งนี้ไปตรวจสอบและทำงานในเชิงรุกต่อไป
ทั้งนี้การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในวันนี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งสองหน่วยงาน และประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติใน 3 ประการ ดังนี้ 1. การป้องกันการอาศัยช่องโหว่ของกฎหมายในการประกอบธุรกิจ หรือ การถือครองที่ดิน 2. การเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบและการบังคับใช้กฎหมาย ผ่านการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของรัฐอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง และ 3. การส่งเสริม ให้มีการแข่งขันทางธุรกิจอย่างเป็นธรรม และคุ้มครองธุรกิจของคนไทยที่ยังไม่มีความพร้อมในการแข่งขันกับนักลงทุนต่างชาติได้อย่างเสรี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี