บมจ.นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น (NAM) เดินหน้ารุกตลาดเครื่องมือแพทย์เต็มสูบ ด้วย 4 ยุทธศาสตร์หลัก หนุนรายได้ปี 2568 นี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 50% พร้อมเร่งขยายไลน์ธุรกิจเข้าสู่กลุ่มเครื่องมือแพทย์ชั้นสูง มุ่งสร้างความร่วมมือบริษัทชั้นนำระดับโลก วิจัย พัฒนา เทคโนโลยีใหม่ๆ และตั้งเป้าผลักดันไทยเป็นฐานใหญ่ เพื่อส่งออกและกระจายสินค้าสู่ตลาดอาเซียน

นายวิโรจน์ ชัยเทอดเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ NAM ผู้ผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงผลิตภัณฑ์สิ้นเปลืองทางการแพทย์ และให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้องแบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเดินหน้ารุกตลาดอย่างต่อเนื่อง ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์หลัก 4 ด้าน เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยมีเป้าหมายขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และต่อยอดไปยังตลาดภูมิภาคอาเซียน พร้อมคาดการณ์รายได้รวมปี 2568 เติบโตไม่ต่ำกว่า 50% เมื่อเทียบกับปีก่อน

สำหรับ 4 ยุทธศาสตร์สำคัญของบริษัท ประกอบด้วย 1.การขยายช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและระดับภูมิภาค โดยมุ่งเน้นการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจและตัวแทนจำหน่ายเชิงกลยุทธ์ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายในวงกว้าง 2.การเสริมสร้างความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ครอบคลุมตั้งแต่การวิจัย พัฒนา การผลิต ไปจนถึงบริการหลังการขาย เพื่อรักษามาตรฐานคุณภาพระดับสากล 3.การลงทุนด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ สำหรับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย และ 4.การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ด้วยแนวคิด“Clean to Green”ส่งเสริมกระบวนการผลิตและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

“แนวโน้มการเติบโตของบริษัทยังคงแข็งแกร่ง สอดรับกับกลยุทธ์การขยายไลน์ธุรกิจเข้าสู่กลุ่มเครื่องมือแพทย์ชั้นสูง ซึ่งมีแนวโน้มความต้องการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งในและต่างประเทศ ขณะเดียวกันบริษัทยังอยู่ระหว่างการเร่งเจรจาความร่วมมือกับพันธมิตรบริษัทชั้นนำระดับโลก เพื่อร่วมกันวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่ โดยวางยุทธศาสตร์ให้ไทยเป็นฐานการผลิตหลัก เพื่อรองรับการส่งออก และกระจายสินค้าสู่ตลาดภูมิภาคอาเซียนในอนาคต”นายวิโรจน์ กล่าว

ทั้งนี้แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก 2568 บริษัทคาดว่าจะเติบโตได้ตามที่คาดการณ์ไว้ จากการขยายตัวของตลาดอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ที่มีแนวโน้มความต้องการที่เพิ่มขึ้น โดยมีจากปัจจัยสนับสนุนด้านโครงสร้างประชากรที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และความตื่นตัวด้านสุขอนามัยที่ยังคงสูง รวมถึงความต้องการในกลุ่มเครื่องมือแพทย์เฉพาะทางที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มอุปกรณ์ฆ่าเชื้อและผลิตภัณฑ์สิ้นเปลืองทางการแพทย์ ซึ่งถือเป็นสินค้าหลักของบริษัทอยู่แล้ว นอกจากนี้บริษัทยังเริ่มรับรู้รายได้จากบริษัทย่อยที่มีการลงทุนในช่วงปลายปี 2567 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2568 ซึ่งส่งผลให้มีแนวโน้มรายได้เพิ่มขึ้นตามแผนการขยายธุรกิจอีกด้วย

นายวิโรจน์ กล่าวว่า สำหรับผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1/2568 บริษัททำรายได้รวม 542.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 163.30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 205.95 ล้านบาท โดยบริษัทมีกำไรขั้นต้น 170.30 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 60.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 359.13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 13.27 ล้านบาท ในขณะที่กำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ อยู่ที่ 40.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 201.48% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน