นายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า อุตสาหกรรมเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายของไทยถือเป็นหนึ่งสาขาในอุตสาหกรรมแฟชั่นและมีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไทย โดยปี 2567 การส่งออกอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่มไทย มีมูลค่ารวม 6,196.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 เมื่อเทียบกับปีก่อน (ที่มา : สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ) โดยมีจุดแข็งด้านฝีมือแรงงานที่มีความประณีตในการตัดเย็บ ลวดลายที่มีเอกลักษณ์ซึ่งเป็นการผสมผสานผ้าไทยและลวดลายดั้งเดิมเข้ากับการออกแบบที่ร่วมสมัย อีกทั้ง ยังมีห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแรงและวัตถุดิบในพื้นถิ่นหลากหลาย เอื้อต่อการสร้างแบรนด์แฟชั่นที่มีเอกลักษณ์สามารถต่อยอดสู่แฟชั่นเชิงวัฒนธรรมและความร่วมสมัยระดับสากล แต่ถึงแม้จะมีศักยภาพสูง แต่อุตสาหกรรมเสื้อผ้าฯ ยังคงเผชิญความท้าทายหลายด้าน อาทิ ต้นทุนแรงงาน การแข่งขันจากประเทศผู้ผลิตต้นทุนต่ำ การขาดทักษะด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ และการออกแบบเพื่อกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ รวมถึงผู้ประกอบการรายย่อยจำนวนมากยังไม่สามารถเข้าถึงความรู้เชิงลึกและช่องทางการตลาดระหว่างประเทศ ซึ่งนับว่าเป็นความท้าทายในการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้โดดเด่นและตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าและตลาดแฟชั่นในปัจจุบัน
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ได้มองเห็นโอกาสในความท้าทายที่จะยกระดับศักยภาพและขีดความสามารถของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมแฟชั่นสาขาเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายไทย ภายใต้นโยบาย“ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ที่มุ่งส่งเสริม พัฒนา และยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการในทุกด้านอย่างตรงจุดผ่าน “กิจกรรมการพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์และผลิตภัณฑ์สู่ Fashion Hero Brand สาขาอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายไทย” โดยเน้นการพัฒนาองค์ความรู้และทักษะที่จำเป็นให้แก่ผู้ประกอบการ ทั้งด้านการออกแบบ พัฒนาผลิตภัณฑ์ และสร้างต้นแบบ Hero Brand ที่เป็นตัวแทนของอุตสาหกรรมไทย เพื่อยกระดับสู่การเป็นแบรนด์ระดับสากล รวมถึงเสริมสร้างภาพลักษณ์สินค้าที่มีอัตลักษณ์และรากฐานจากทุนทางวัฒนธรรมของไทยให้มีความเป็นสากล ตลอดจนขยายโอกาสทางการตลาดและเชื่อมโยงกับเครือข่ายแฟชั่นระดับประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการประทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งเน้นการปฏิรูปอุตสาหกรรมให้มีความทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส ด้วยการพัฒนาอุตสาหกรรมเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการปรับตัวให้เข้ากับวิถีใหม่ของโลก รวมถึงสนับสนุนการใช้ภูมิปัญญาและทุนทางวัฒนธรรมท้องถิ่น เพื่อยกระดับสินค้าทั้งด้านมาตรฐานและดีไซน์ให้ทันสมัย โดดเด่น แตกต่าง และตอบโจทย์ความต้องการของตลาดโลก
นายสุรพล กล่าวต่อว่า กิจกรรมดังกล่าว ดีพร้อมนำกลไก Soft Power มาช่วยสร้างคุณค่าให้กับอุตสาหกรรมแฟชั่นในสาขาเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายไทย โดยผู้ประกอบการเจ้าของแบรนด์ จำนวน 28 กิจการที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับการให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึกในการพัฒนาทักษะเชิงรุกและตลาดแฟชั่น เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และทักษะที่จำเป็นด้านกลยุทธ์แบรนด์ การสร้างภาพลักษณ์ การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์การบริหารจัดการ การสื่อสารแบรนด์อย่างมีประสิทธิภาพ การดำเนินกิจกรรมนี้จะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมเสื้อผ้าไทยในหลายมิติ ทั้งการยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการไทยให้สามารถสร้างแบรนด์ที่มีความเป็นมืออาชีพและมีอัตลักษณ์ อันจะกระตุ้นการเติบโตของอุตสาหกรรมแฟชั่นในประเทศ เพิ่มโอกาสจ้างงานและลดการพึ่งพา
การผลิตแบบ OEM ไปสู่การสร้างแบรนด์ไทยที่ยั่งยืน
“ดีพร้อม” เชื่อมั่นว่ากิจกรรม Fashion Hero Brand จะสามารถสร้างโอกาสและส่งเสริมภาพลักษณ์ของเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายไทย อันจะเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์และสนับสนุนพลัง Soft Powerของแฟชั่นไทยทั้งในและต่างประเทศ สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญการขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์การพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) อีกทั้ง ยังเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยให้กลายเป็นแบรนด์ระดับโลกที่สะท้อนอัตลักษณ์เสน่ห์ความเป็นไทยได้อย่างดงาม และคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 100 ล้านบาท” นายสุรพล กล่าวทิ้งท้าย
-032
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี