นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9-11 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ได้นำคณะพบหารือกับผู้บริหารและเยี่ยมชมศูนย์พัฒนา วิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมของบริษัท Huawei ณ นครเซินเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อกระชับความร่วมมือ สร้างความเข้าใจ ที่จะช่วยให้เห็นภาพและตัวอย่างที่ชัดเจนขึ้นในเรื่องการนำเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัย ทั้งระบบอุปกรณ์สมาร์ทเทคโนโลยี คลาวด์ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Big Data มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและบริหารจัดการข้อมูลธุรกิจแบบครบวงจร โดยคำนึงถึงการรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูล ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการพัฒนางานบริการจดทะเบียนและงานบริการข้อมูลธุรกิจของกรมฯ ให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการนำ AI และ Cloud มาช่วยบริหารจัดการข้อมูลธุรกิจ ทั้งการวิเคราะห์แนวโน้มธุรกิจลงลึกในรายสาขาธุรกิจ/พื้นที่ การเติบโตของธุรกิจรายประเภท/จังหวัดได้อย่างแม่นยำ ควบคู่กับการให้คำปรึกษาธุรกิจอัตโนมัติด้วย AI Chatbot และที่สำคัญยังสามารถคาดการณ์ความเสี่ยงให้กับภาคธุรกิจในกลุ่มที่ต้องเร่งปรับตัวหรือมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางธุรกิจอย่างเร่งด่วน หรือระบบ Early Warning System อันจะเป็นข้อมูลสำคัญให้ภาคธุรกิจนำไปใช้ประกอบการวางแผนการดำเนินธุรกิจภายใต้สถานการณ์ที่มีความท้าทายเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งจะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนกรมพัฒนาธุรกิจการค้าสู่เป้าหมายการเป็นศูนย์กลางข้อมูลธุรกิจ (Business Intelligence Hub) ของประเทศในอนาคตด้วย 

นอกจากนี้ ยังได้พบหารือกับผู้บริหารและเยี่ยมชมการปฏิบัติงานของบริษัท Karball Group (Cross Broadcast Zhilian (Shenzhen) Technology Co., Ltd.) ซึ่งเป็นผู้นำด้านการให้บริการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจร มีความเชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษา SME ในการวิเคราะห์ตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งในจีนและทั่วโลก การผลิตคอนเทนต์ไลฟ์สดข้ามประเทศในหลายภาษา การบริหารจัดการงานหลังบ้านทั้งในส่วนสต็อกสินค้าและคลังสินค้า การโปรโมทสินค้าผ่านระบบออนไลน์ การบริหารจัดการให้กับร้านค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ในลักษณะ Multi-Channel Network หรือ MCN สำหรับแบรนด์ที่ต้องการขยายตลาดไปสู่ตลาดโลก ทั้งนี้ บริษัท Karball Group มีสำนักงานอยู่ในหลายเมืองในจีนและในประเทศต่างๆ เช่น มาเลเซีย เวียดนาม รัสเซีย และสเปน เป็นต้น รวมถึงมี Influencer/KOL หลักพันอยู่ในหลายประเทศ มีห้องถ่ายทอดสดในเครือข่ายให้บริการกว่า 600 ห้องทั่วโลก

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา สินค้าที่ Karball Group นำมาไลฟ์ขายออนไลน์ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เช่น การไลฟ์ขายรองเท้าของเด็กเล็กในจีนที่สามารถสร้างยอดขายให้ผู้ประกอบการได้ถึง 3,000 ล้านหยวน การไลฟ์ขายน้ำยาซักผ้าในไทยที่สามารถสร้างยอดขายได้ถึง 300 ล้านบาท เป็นต้น โดยกรมฯ ได้หารือกับ Karball Group ด้านความร่วมมือในการส่งเสริมให้ SME ไทยมีความรู้ในการวิเคราะห์ตลาดอี-คอมเมิร์ซ การบริหารจัดการงานหลังบ้านในการทำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การใช้เทคโนโลยีไลฟ์สตรีมมิ่งในการขยายตลาดและเพิ่มยอดขายได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการส่งสินค้าไทยไปต่างประเทศ เช่น จีน ผ่านการตลาดออนไลน์ เนื่องจากไทยมีสินค้าหลากหลาย โดยเฉพาะอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าอุปโภค และไลฟ์สไตล์ ที่น่าจะส่งเสริมให้เป็นที่นิยมและสนใจในตลาดจีนได้ ซึ่งทาง Karball Group ก็มีความสนใจที่จะจับมือทำงานร่วมกับไทย” อธิบดีอรมน กล่าวทิ้งท้าย

-032