nn เศรษฐกิจโลกในปีนี้ยังมีแนวโน้มชะลอตัวมากจากสงครามการค้า แม้ภาพรวมจะดีขึ้นบ้างจากความคืบหน้าการเจรจาการค้า และหลายประเทศเร่งผลิต ส่งออก และบริโภคก่อนจะได้รับผลกระทบจากนโยบายกำแพงภาษีสหรัฐฯ และบรรยากาศการเจรจาการค้าของสหรัฐฯ กับคู่ค้าเริ่มดีขึ้นบ้าง โดยเฉพาะข้อตกลงกับสหราชอาณาจักรที่ลุล่วงแล้ว ข้อตกลงลดภาษีตอบโต้กับจีนชั่วคราว และแผนเร่งเจรจากับคู่ค้าหลัก อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าอัตราภาษีตอบโต้จริงของสหรัฐฯ หลังสิ้นสุดช่วงเจรจาส่วนใหญ่จะยังคงสูงกว่าอัตราภาษีขั้นต่ำ 10% (Universal tariff) รวมถึงจะยังมีความไม่แน่นอนทางนโยบายในระดับสูงต่อเนื่อง ส่งผลกดดันภาพรวมการค้าและการลงทุนโลก
สำหรับเศรษฐกิจไทยแม้ว่าไตรมาส 1 ขยายตัว 3.1% จากปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการส่งออกสินค้า โดยเฉพาะการเร่งส่งออกไปสหรัฐฯ และจีนก่อนสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีตอบโต้ รวมถึงวัฏจักรอิเล็กทรอนิกส์ขาขึ้น และปัจจัยหนุนจากการเร่งใช้จ่ายภาครัฐ ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวยังได้รับผลบวกจากการเข้ามาของนักท่องเที่ยวในเดือนมกราคมที่ยังอยู่ในช่วงไฮซีซั่น ก่อนเริ่มชะลอตัวลงจากการหดตัวของนักท่องเที่ยวจีนเป็นหลัก แต่การลงทุนภาคเอกชนยังหดตัวต่อเนื่อง 4 ไตรมาส ขณะที่ภาคการผลิตอุตสาหกรรมยังขยายตัวต่ำ ส่วนหนึ่งจากการระบายสินค้าคงคลังต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม สัญญาณเศรษฐกิจไทยช่วงข้างหน้าจะแผ่วลง ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(GDP) ครึ่งปีหลังอาจโตเฉลี่ยไม่ถึง 1% การใช้จ่ายภาครัฐจะยังช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจได้ในระยะสั้น โดยเฉพาะการปรับแผนใช้จ่ายงบกลาง ค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ วงเงิน 1.57 แสนล้านบาท ที่ยังเหลือ
ถึงกระนั้นเครื่องชี้ด้านการผลิตยังสะท้อนความเปราะบาง อาทิ จำนวนธุรกิจเปิดกิจการในช่วง 4 เดือนแรกของปีหดตัว 4.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY) ขณะที่จำนวนธุรกิจปิดกิจการเพิ่มขึ้น 8.3%YOY ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจปรับลดลง เครื่องชี้กิจกรรมภาคธุรกิจมีแนวโน้มซบเซาต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดบ้านและรถยนต์ ธุรกิจท่องเที่ยวเริ่มชะลอตัวตามการลดลงของนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะจีน บางธุรกิจจะเผชิญผลกระทบจาก China influx รุนแรงขึ้น
ปัจจัยเหล่านี้ชี้ว่า การลงทุนภาคเอกชนในช่วงที่เหลือของปีจะมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่อง สำหรับการส่งออกสินค้าจะกลับมาหดตัวหลังสหรัฐฯ เริ่มเก็บภาษีตอบโต้คู่ค้าตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค. นอกจากนี้ เครื่องชี้ภาวะการเงินที่ยังตึงตัว โดยเฉพาะรายย่อยที่เข้าถึงสินเชื่อได้ยาก จะเป็นปัจจัยกดดันการบริโภคภาคเอกชนให้ใช้จ่ายระมัดระวังขึ้น ในภาวะกำลังซื้ออ่อนแอและหนี้ครัวเรือนสูง
มองเห็นความเห็นโจทย์ที่ท้าทายของเศรษฐกิจในระยะข้างหน้านี้แล้ว ก็หวังว่ารัฐบาลและตัวนายกรัฐมนตรี คงจะมีสมาธิพอที่จะบริหารประเทศ และออกแนวนโยบายที่แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ตรงจุดมากกว่าที่ทำอยู่ทุกวันนี้
พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี