เมื่อเร็วๆ นี้ ตัวแทนของ 10 สมาคมผู้ผลิตเหล็ก (ซึ่งมีสมาชิกอยู่กว่า 600 บริษัท) ได้เข้าหารือกับ นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม…ซึ่งผู้ผลิตเหล็กทั้ง 10 สมาคม ได้แสดงความกังวลอย่างมาก ทั้งจากการแข่งขันและการถูกดัมพ์ราคา และยืนยัน กับรมว.อุตสาหกรรม ไปว่า ต้องการให้กระทรวงอุตสาหกรรม ดำเนินการอย่างเข้มงวด ให้ทุกโรงงานผลิตเหล็กในประเทศไทยต้องดำเนินการตามกฎหมาย และมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) เพราะสำคัญต่อความมั่นคงแข็งแรงของโครงสร้างอาคารสิ่งก่อสร้างต่างๆ ดังนั้น การผลิตสินค้าเหล็ก โดยทุกโรงงานต้องปฏิบัติตาม มอก.อย่างครบถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตเหล็กเส้นเหล็กข้ออ้อย ต้องไม่ใช่เพียงอ้างจะเพิ่มความเข้มงวด ระบบคัดแยกและ ตรวจสอบคุณภาพเศษเหล็กเท่านั้น แต่ต้องมีกระบวนการทำน้ำเหล็กให้บริสุทธิ์ (Refining Process) ด้วย เพื่อลดฟอสฟอรัสและกำมะถันที่เจือปนให้ไม่เกินมาตรฐานที่กำหนด รวมทั้งปรับแต่งค่าส่วนประกอบทางเคมีขจัดสารฝังใน โดยมีการติดตั้งเตาปรุงน้ำเหล็กให้บริสุทธิ์ (Ladle Furnace)

รวมทั้งประเด็นเรื่องการให้พิจารณาถี่ถ้วนกับการที่จะให้โรงงานที่มีกระบวนการผลิต และมีสินค้าไม่ได้มาตรฐานเปิดดำเนินการอีกครั้ง และเรื่องการยกระดับมาตรฐานเหล็ก มอก. ให้เป็นภาคบังคับ เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับผู้บริโภคในอนาคต ซึ่งปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญกับคุณภาพเหล็กเส้นมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งเจ้าของบ้านหรือผู้รับเหมา รู้ว่าเหล็กเส้นแต่ละชนิดไม่เหมือนกัน ผู้บริโภคเริ่มกำหนดสเปกและตรวจสอบคุณภาพมากขึ้น ส่วนตัวของผู้ผลิตเหล็กเส้นในประเทศเอง ก็มีความพร้อมในการผลิตสินค้าทุกขนาดและทุกระดับคุณภาพเช่นกัน ไม่มีปัญหาการขาดแคลนเหล็กเส้นในตลาดแน่นอน เนื่องจากยังมีกำลังการผลิตเหลืออีกกว่า 70% สามารถจัดหาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายได้ ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดในปัจจุบัน

ว่ากันตรงๆคืออุตสาหกรรมเหล็กมีความกังวลเรื่องที่ กระทรวงอุตสาหกรรม กำลังจะออกประกาศให้ บริษัท ซินเคอหยวน สตีล จำกัด (ผู้ผลิตเหล็กเตา IF รายใหญ่ ซึ่งเป็นของกลุ่มจีน) กลับมาเปิดโรงงานผลิตได้อีกครั้ง...หลังจากที่ถูกสั่งระงับกิจการชั่วคราวไปเมื่อเดือนธันวาคม 2567 หลังจากโรงงานดังกล่าวเกิดเหตุถังแก๊สระเบิด และตรวจสอบพบเหล็กเส้นของซิน เคอ หยวน จำนวนหนึ่งไม่ผ่านมาตรฐาน มอก.

จากการหารือระหว่าง 10 สมาคมผู้ผลิตเหล็ก และ นายธนกร เมื่อครั้งล่าสุดที่ผ่านมานั้น นายธนกร ก็ได้รับปากว่าจะดำเนินการภายใต้กรอบของกฎหมาย....ดังนั้นในเรื่องที่ต้องมีกระบวนการทำน้ำเหล็กให้บริสุทธิ์ (Refining Process) ด้วย เพื่อลดฟอสฟอรัสและกำมะถันที่เจือปนให้ไม่เกินมาตรฐานที่กำหนด รวมทั้งปรับแต่งค่าส่วนประกอบทางเคมีขจัดสารฝังใน โดยมีการติดตั้งเตาปรุงน้ำเหล็กให้บริสุทธิ์ (Ladle Furnace)...ก็มีอยู่ใน มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ซึ่งมีศักดิ์เป็นกฎหมาย...มีกำหนดไว้แล้วแต่ที่ผ่านมาไม่มีการบังคับใช้กฎหมาย....รมว.อุตฯจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้สังคมเกิดความกังวลต่อเรื่องการที่เจ้าหน้าที่รัฐไม่บังคับใช้กฎหมาย

หาก รมว.อุตฯ ประกาศเปิดการผลิตอีกครั้ง...อีกไม่กี่เดือนท่านก็ไปแล้ว...แต่ด้วยประกาศนั้นอาจจะเป็นเหตุที่สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนคนไทยอีกครั้งเมื่อใดก็ได้...ใครจะรับผิดชอบ

พงษ์พันธุ์