พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดกิจกรรมเชิงปฏิบัติการการสร้างภาคีเครือข่ายสกัดคอลเซ็นเตอร์ฟื้นคืนชีพ กสทช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือสร้างมาตรการป้องกันเชิงรุก ให้สอดคล้องกับ พ.ร.ก.มาตรการป้องปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่2) เพื่อสกัดการฟื้นคืนชีพของอาชญากรรมประเภทนี้โดยมี ผู้แทนหน่วยงานเข้าร่วมกว่า 200 คน ณ อาคารหอประชุม ชั้น 2 สำนักงาน กสทช.
พล.ต.อ.ณัฐธร กล่าวว่า การป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ก็เป็นหนึ่งภารกิจสำคัญที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ที่ระบาดอย่างหนัก ในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา การแก้ไขปัญหาดังกล่าวมีความซับซ้อน เกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายฉบับ และ เป็นความรับผิดชอบของหลายหน่วยงาน จึงต้องบูรณาการงานร่วมกัน ทั้งเชิงนโยบายและเชิงปฏิบัติการ ซึ่งที่ผ่านมา กสทช. ได้ปฏิบัติการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ภายใต้มาตรการ “ซิม เสา สาย” มีผลการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดและตรวจยึดของกลางได้เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ งานด้านการปรับปรุงกฎหมายและระเบียบต่าง ๆ ของ กสทช. ได้ขานรับ พรก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ฉบับที่ 2 ซึ่งมีผลใช้บังคับ เมื่อวันที่ 13 เม.ย. 2568 ที่ผ่านมา ในเรื่องนี้ มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก โดยล่าสุด กสทช. ได้จัดทำร่างมาตรการสำคัญ ดังนี้
1. ผู้ให้บริการโทรคมนาคมต้องตรวจคัดกรองการใช้งานที่ต้องสงสัยและระงับการใช้ 2. ผู้ให้บริการจะต้องระงับการใช้ทันที ที่ได้รับการแจ้งจาก กสทช. ว่าเป็นเบอร์ที่ต้องสงสัย เพื่อป้องกันความเสียหายขยายวง 3. ผู้ให้บริการมีหน้าที่ตรวจสอบย้อนกลับเบอร์ที่จดทะเบียนใหม่ภายในสัปดาห์แรกว่า ข้อมูลที่รับจดทะเบียนถูกต้องตรงกับข้อเท็จจริงหรือไม่ 4. ผู้ให้บริการมีหน้าที่ตรวจสอบ SMS และ Links ก่อนจัดส่ง 5. ผู้ให้บริการต้องมิให้ซิมบ็อกส์ (Sim box) ที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือซิมบ็อกซ์ผี เชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม
6. มาตรการบริหารจัดการซิมการ์ดสำหรับคนต่างชาติ โดยจำกัดจำนวนการลงทะเบียน ไม่เกิน 3 ซิมการ์ด และกำหนดให้ใช้พาสปอร์ตในการยืนยันตัวตนเพื่อลงทะเบียนเท่านั้น และ 7. ซิมนักท่องเที่ยว (Tourist SIM) ใช้งานได้ไม่เกิน 60 วัน โดยไม่สามารถเติมเงินเพื่อขยายระยะเวลาการใช้งานได้
ทั้งนี้ หากพบว่าผู้ให้บริการรายใดไม่ปฏิบัติตามมาตรการ ที่กำหนด หากเกิดความเสียหาย อาจจำเป็นต้องร่วมชดใช้ให้กับผู้เสียหาย เพื่อให้เป็นไปตาม มาตรา 8/10 ภายใต้ พ.ร.ก. ฉบับใหม่ ซึ่งขณะนี้มาตรการดังกล่าว ผ่านคณะอนุกรรมการ กสทช. แล้ว และขั้นต่อไปจะเสนอให้ ที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช. ชุดใหญ่ เห็นชอบต่อไป คาดว่าจะมีผลใช้บังคับในเร็ว ๆ นี้
การจัดกิจกรรมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ กสทช. ได้มุ่งเน้นการสร้างภาคีเครือข่ายระหว่างเจ้าหน้าที่ ทำให้การประสานความร่วมมือ การแบ่งปันข้อมูล และทำให้การปฏิบัติงานเป็นไปแนวทางเดียวกัน เพื่อให้การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตลอดจนการพัฒนาความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในระดับนโยบายและการปฏิบัติงาน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยในระบบโทรคมนาคมของประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป
-031
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี