สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ มุ่งเน้นการพัฒนาสู่การเป็นองค์กรแห่งความเป็นเลิศด้านการฟื้นฟูผู้ป่วยทางกายภาพบำบัด ในโลกยุคดิจิทัลที่การทำงานมักผูกติดอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน "ออฟฟิศซินโดรม" ได้กลายเป็นเพื่อนร่วมงานที่ไม่พึงประสงค์ของคนวัยทำงานจำนวนมาก อาการปวดเมื่อยเรื้อรังที่คอ บ่า หลัง ไม่เพียงบั่นทอนสุขภาพ แต่ยังกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงานและคุณภาพชีวิตประจำวัน
นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) หรือกลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด (Myofascial Pain Syndrome) คือภาวะที่กล้ามเนื้อหดเกร็ง อักเสบและปวดเมื่อยเรื้อรังบริเวณ คอ บ่า ไหล่ หลัง และสะบัก อาการเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเอง แต่เป็นผลมาจากการทำงานในท่าทางซ้ำๆเดิมๆ เป็นเวลานาน โดยไม่มีการปรับเปลี่ยนอิริยาบถ หรือขาดการพักผ่อนที่เพียงพอ
สาเหตุหลักที่กระตุ้นให้เกิดอาการ การนั่งหลังค่อม ก้มหน้า ยื่นคอ หรือยกไหล่ขณะทำงานนานๆ ใช้กล้ามเนื้อซ้ำๆ การใช้เมาส์ คีย์บอร์ด หรือโทรศัพท์มือถือในท่าทางเดิมๆ สภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย โต๊ะ เก้าอี้จอคอมพิวเตอร์ที่ไม่ถูกหลักการยศาสตร์ (Ergonomics) พักผ่อนน้อยและความเครียดทำให้กล้ามเนื้อตึงเครียดสะสม ขาดการออกกำลังกาย ทำให้กล้ามเนื้อไม่แข็งแรงและขาดความยืดหยุ่น สังเกตอาการง่ายๆ หากคุณมีอาการเหล่านี้ ปวด ตึง หรือเมื่อยล้ากล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ สะบัก และหลัง อาจมีอาการปวดร้าวขึ้นศีรษะ ปวดกระบอกตา ตาพร่ามัว ชา หรือเหน็บชาบริเวณมือ นิ้วมือ แขน หรือขารวมถึงอาการนิ้วล็อคและนอนไม่หลับ ควรเริ่มใส่ใจสุขภาพ
แพทย์หญิงภัทรา อังสุวรรณ ผู้อำนวยการสถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า การกายภาพบำบัดเป็นหนึ่งในการรักษาหลักที่สำคัญและมีประสิทธิภาพสำหรับออฟฟิศซินโดรม นักกายภาพบำบัดจะประเมินอาการและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล เพื่อลดอาการปวด ฟื้นฟูการทำงานของกล้ามเนื้อ และป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ โดยมีเทคนิคและเครื่องมือหลากหลาย ดังนี้ 1.ลดปวดและลดการอักเสบ การประคบร้อน/เย็น ช่วยลดปวดและคลายกล้ามเนื้อ หรือลดการอักเสบ 2.เครื่องมือทางกายภาพบำบัด อาทิ เครื่องอัลตราซาวด์ (ลดอักเสบ บรรเทาปวด) เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า (ลดปวด คลายกล้ามเนื้อ) และเลเซอร์บำบัด (ลดอักเสบ บรรเทาปวด) 3.คลายกล้ามเนื้อและเพิ่มความยืดหยุ่น การนวดบำบัด (Manual Therapy) นักกายภาพบำบัดจะใช้มือคลายกล้ามเนื้อที่หดเกร็งและลดจุดกดเจ็บ
4.การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ สอนท่าบริหารที่ถูกต้อง เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและข้อต่อ ลดอาการตึงรั้ง 5.เสริมสร้างความแข็งแรงและปรับท่าทาง การออกกำลังกายเสริมสร้างความแข็งแรง เน้นกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (Core Muscles) และกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความทนทาน 6.การปรับท่าทางการทำงาน (Ergonomic Modification): ให้คำแนะนำในการจัดโต๊ะ เก้าอี้ และอุปกรณ์ทำงานให้เหมาะสมกับสรีระ เพื่อลดภาระของกล้ามเนื้อ 7.การปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน แนะนำ ให้ลุกเดิน เปลี่ยนอิริยาบถเป็นประจำ ไม่นั่งทำงานติดต่อกันนานเกินไป
กายภาพบำบัดเป็นแนวทางการรักษาที่ครอบคลุมและยั่งยืนสำหรับออฟฟิศซินโดรม เพราะมุ่งเน้นการแก้ปัญหาจากต้นเหตุอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่บรรเทาอาการชั่วคราว การร่วมมือกับนักกายภาพบำบัดอย่างสม่ำเสมอ พร้อมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน จะช่วยให้คุณกลับมาใช้ชีวิตและทำงานได้อย่างมีคุณภาพ ปราศจากความปวดเมื่อย และลดโอกาสที่อาการจะกลับมาเป็นซ้ำในอนาคตได้อย่างแน่นอน
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี