เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2568 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดงานแถลงข่าว “โครงการศูนย์กลางประกอบอาหารนครชัยบุรินทร์”NAKHONCHAIBURIN GASTRONOMY HUB (NGH) โดยมี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา และอดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานแถลงข่าว พร้อมด้วย รศ.ดร.อดิศร เนาวนนท์ อธิการบดี มร.นม. , นายสุรพันธ์ ศิลปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และ เชฟชุมพล แจ้งไพร สุดยอดเชฟกระทะเหล็กอาหารไทย ร่วมแถลงข่าว ณ ห้องประชุมสระบัว หอประชุมราชภัฏรังสฤษฏ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ กล่าวว่า โครงการ “ศูนย์กลางประกอบอาหารนครชัยบุรินทร์ ภายใต้งบประมาณ 20 ล้านบาท ที่ได้รับการอนุมัติจากการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจ ที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อสร้างผู้ประกอบการด้านอาหาร พัฒนาเชฟท้องถิ่น และยกระดับอาหารพื้นถิ่นของภาคอีสานให้ทันสมัย มีมูลค่าเพิ่ม และสามารถแข่งขันในระดับสากล โครงการนี้ ริเริ่มโดยมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ซึ่งได้รับมอบหมายให้ดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและท้องถิ่น โดยมีการจัดสรรงบประมาณ 15 ล้านบาท สำหรับปรับปรุงสถานที่อบรมและครัวประกอบอาหาร และอีก 5 ล้านบาท สำหรับการอบรมภาคสนามใน 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิ และสุรินทร์

“โครงการนี้ มุ่งสร้างเชฟและผู้ประกอบการรายใหม่ พัฒนาศักยภาพร้านอาหารท้องถิ่น และเพิ่มมูลค่าให้กับอาหารอีสานที่มีจุดแข็งด้านความหลากหลายและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ โดยเน้นการใช้นวัตกรรม เรื่องเล่าทางวัฒนธรรม และการจัดการแบบมืออาชีพ”

นายสุวัจน์ ระบุว่า โครงการนี้ไม่ใช่เพียงโครงการเพื่อภูมิภาคเท่านั้น แต่ถือเป็นกลไกสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยเฉพาะในช่วงที่ภาคอุตสาหกรรมหลักอย่างยานยนต์เริ่มชะลอตัว และจำนวนนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะจากจีนลดลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะฉะนั้นอาหารคือ Soft Power สำคัญของไทย เช่นเดียวกับอาหารญี่ปุ่น อิตาเลียน หรือฝรั่งเศส จังหวัดนครราชสีมาก็ถูกยกให้เป็นศูนย์กลางการพัฒนาอาหารอีสาน โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏฯ ทำหน้าที่เป็นแกนกลางของการบูรณาการความรู้ วิจัย และนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน

โครงการศูนย์กลางประกอบอาหารนครชัยบุรินทร์ จึงเป็นมากกว่าการพัฒนาท้องถิ่น แต่เป็น Pilot Project ระดับประเทศ ที่จะส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เชิดชูอัตลักษณ์อาหารไทย และสร้างรากฐานใหม่ทางเศรษฐกิจในระยะยาว โดยเฉพาะเมื่อเชื่อมโยงกับโครงสร้างพื้นฐานที่กำลังพัฒนา เช่น มอเตอร์เวย์และรถไฟความเร็วสูง ซึ่งจะช่วยให้การเดินทางสู่ภาคอีสานสะดวกมากขึ้น

“ถ้าเราสามารถที่จะเอาครัวอีสาน อาหารไทยมากอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจได้มาช่วยเรื่องการท่องเที่ยว น่าจะตอบโจทย์กับปัญหาของประเทศ หากทุกภาคส่วนร่วมมือกันอย่างจริงจัง โครงการ “ศูนย์กลางประกอบอาหารนครชัยบุรินทร์“จะเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวให้กับประเทศไทย” นายสุวัจน์ กล่าว

สำหรับกิจกรรมภายใต้โครงการประกอบด้วย 1.การปรับปรุงศูนย์ฝึกอบรมด้านอาหารของกลุ่มนครชัยบุรินทร์ ประกอบด้วย ห้องปฏิบัติการครัวร้อน ห้องปฏิบัติการเบเกอรี่ และห้องปฏิบัติการอบรม 2.การจัดอบรมพัฒนาศักยภาพกำลังคนด้านอาหารจังหวัดนครชัยบุรินทร์ 4 จังหวัด ในหลักสูตรสำหรับชุมชนท่องเที่ยวหรือชุมชนที่ผลิตและจำหน่ายอาหารเป็นลักษณะของฝากหรือชุมชนที่มีเมนูอาหารอัตลักษณ์ของท้องถิ่น / หลักสูตรสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหาร ผู้ให้บริการด้านอาหาร หรือผู้ที่สนใจประกอบกิจการร้านอาหาร / และหลักสูตรสำหรับผู้ประกอบอาหาร (เชฟ) ในโรงแรมหรือสถานบริการที่พัก 3.การจัดเวทีเสวนาวิชาการด้านอาหารนครชัยบุรินทร์ 4 จังหวัด 4.การจัดมหกรรมอาหารและแข่งขันทักษะวิชาการและวิชาชีพด้านอาหารนครชัยบุรินทร์ กำหนดจัดในวันที่ 19 - 21 มิถุนายน 2568 ณ บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี

- 006