นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการ รมว.อุตสาหกรรมและโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า นอกจากการดำเนินการสั่งจับสั่งปิดโรงงานเหล็กไม่มาตรฐานอย่างต่อเนื่องของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม แล้ว กระทรวงอุตสาหกรรมยังได้ยกระดับมาตรการควบคุมเหล็กให้มีคุณภาพให้เข้มข้นยิ่งขึ้น
โดยเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติในหลักการ ร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง ห้ามตั้งหรือขยายโรงงานผลิตเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตหรือเหล็กแท่งเล็กสำหรับเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต ทุกขนาด ทุกห้องที่ในราชอาณาจักร พ.ศ. .... เป็นระยะเวลา 5 ปี มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 9 มกราคม 2573 ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม โดยนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เสนอ
นายพงศ์พล กล่าวว่า จากผลการตรวจสอบคุณภาพเหล็กของโรงงานหลอมเหล็กจากเตา IF (Induction Furnace) จำนวน 7 แห่งจาก 11 แห่งทั่วประเทศ โดยทีมสุดซอย กระทรวงอุตสาหกรรม พบว่า มีผลิตภัณฑ์เหล็กไม่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะค่าโบรอนต่ำกว่ามาตรฐาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของผู้บริโภคเป็นวงกว้าง และขณะนี้ยังเหลือโรงงานอีก 4 แห่ง ที่อยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบ ซึ่งคาดว่าจะทราบผลในไม่ช้า การเปิดเผยข้อมูลในครั้งนี้ ตอกย้ำถึงความจำเป็นในการยกระดับมาตรฐาน และการควบคุมคุณภาพเหล็ก เพื่อให้มั่นใจว่า เหล็กที่ส่งออกสู่ตลาดมีคุณภาพสูงตามเกณฑ์ และสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค
ทั้งนี้สาระสำคัญของประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมฉบับนี้ คือ การขยายระยะเวลาการห้ามตั้งหรือขยายโรงงานผลิตเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต หรือเหล็กแท่งเล็กสำหรับเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตทุกขนาด ทุกท้องที่ในราชอาณาจักร ออกไปอีกเป็นระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 9 มกราคม 2573 (เดิมสิ้นสุดการใช้บังคับเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2568) เพื่อเป็นการควบคุมกำลังการผลิตเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตและเหล็กแท่งเล็กสำหรับเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต เพื่อแก้ไขปัญหากำลังการผลิตเกินความต้องการบริโภค (Over Supply) และใช้โอกาสนี้เพื่อเซฟอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ ควบคุมคุณภาพการผลิต โดยเฉพาะมาตรฐานผลิตเหล็กเส้นชนิด IF ที่พบปัญหาอยู่บ่อยครั้ง จากการลงตรวจของทีมสุดซอย กระทรวงอุตสาหกรรม
นายพงศ์พล กล่าวว่า รมว.อุตสาหกรรม ตระหนักถึงผลกระทบอย่างรุนแรงจากการผลิตเหล็กส่วนเกินและการตีตลาดจากเหล็กเส้นราคาต่ำ แต่มีปัญหาด้านคุณภาพ ที่ทะลักเพิ่มมากขึ้นในตลาดจากทุนข้ามชาติ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจของประเทศอย่างชัดเจน และเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างเร่งด่วน จึงได้ผลักดันร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง ห้ามตั้งหรือขยายโรงงานผลิตเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตหรือเหล็กแท่งเล็กสำหรับเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต ทุกขนาด ทุกห้องที่ในราชอาณาจักร พ.ศ. .... โดยขยายเวลาใช้บังคับออกไปอีกเป็นระยะเวลา 5 ปี ซึ่ง ครม. มีมติอนุมัติในหลักการ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา
“ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมฉบับนี้ โดยการผลักดันของรัฐมนตรีเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ จะช่วยแก้ปัญหาทั้งเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพของการผลิตเหล็กเส้นในประเทศ ควบคุมการเข้ามาของทุนต่างชาติที่นำเข้าเหล็กเกินความจำเป็น และยังเป็นการเซฟอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศไทยในระยะยาว ซึ่งจะส่งผลดีกับระบบเศรษฐกิจและการจ้างงานของประเทศโดยรวม”นายพงศ์พล กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี