นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนได้รับมอบหมายจาก นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้เป็นผู้แทนรัฐบาลไทย เข้าร่วมกล่าวสุนทรพจน์และมอบรางวัลในงาน “Asia Responsible Enterprise Awards 2025 Gala Dinner” ณ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งจัดโดย Enterprise Asia องค์กรพัฒนาภาคเอกชนชั้นนำระดับภูมิภาค เพื่อยกย่ององค์กรที่มีผลงานโดดเด่นด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยมีนักธุรกิจระดับภูมิภาค ผู้ประกอบการ และผู้แทนจากองค์กรภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศเข้าร่วม
ทั้งนี้เศรษฐกิจไทยภายใต้การนำของรัฐบาลชุดปัจจุบันกำลังฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ สำหรับภาคการส่งออกเติบโตอย่างต่อเนื่อง เศรษฐกิจไทยซบเซามานานกว่า 10 ปี ที่ผ่านมาการส่งออกเฉลี่ยเติบโตเพียง 1.9% ต่อปี แต่หลังจากรัฐบาลชุดปัจจุบันเข้าบริหารประเทศ มีการลงทุนไหลเข้ามากถึง 2.58 ล้านล้านบาท และการส่งออกในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ขยายตัวถึง 13.3% ซึ่งเป็นตัวเลขสูงที่สุด ไม่เห็นตัวเลขนี้นับ 10 ปี เฉพาะไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา การส่งออกขยายตัว 10.5% ขณะที่ช่วง 5 เดือนแรกปี 2568 ขยายตัวสูงถึง 14.9% โดยเฉพาะเดือนพฤษภาคมเพียงเดือนเดียวเติบโตถึง 18.4% สะท้อนถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว
ในด้านการลงทุนนั้น ในปี 2567 มีการขอรับการส่งเสริมการลงทุนมูลค่าสูงถึง 1.14 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 35% ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบ 10 ปี ขณะที่การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มีมูลค่าถึง 2.58 ล้านล้านบาท ช่วยเสริมความมั่นคงให้ภาคการผลิตและการส่งออกไทยอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ความสำคัญของการค้าระหว่างประเทศ ไทยได้ผลักดันการเจรจาการค้าเสรี (FTA) อย่างต่อเนื่อง และประสบความสำเร็จในการลงนาม 2 ฉบับ ได้แก่ FTA ไทย–EFTA และ FTA ไทย–ภูฏาน โดยเฉพาะ FTA ไทย–EFTA ซึ่งเป็นข้อตกลงการค้าเสรีฉบับแรกของไทยกับกลุ่มประเทศยุโรปที่มีมาตรฐานสูง และสอดคล้องกับเป้าหมายด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งนี้คาดว่าการเจรจา FTA กับสหภาพยุโรปจะสามารถสรุปผลได้ภายในปี 2568 นี้
อย่างไรก็ตามภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังเผชิญความไม่แน่นอน ทั้งจากปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) และความผันผวนทางนโยบายการค้าระหว่างประเทศ รัฐบาลไทยเชื่อมั่นว่าหนทางในการรับมือคือ “การสร้างสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม” ซึ่งต้องเดินหน้าสู่แนวคิดใหม่อย่าง “เศรษฐกิจแบบฟื้นฟู” (Regenerative Economy)
โดยแนวคิดเศรษฐกิจแบบฟื้นฟูนี้ เป็นการพัฒนาต่อยอดจากแนวทางเศรษฐกิจยั่งยืน ซึ่งไม่เพียงรักษาสภาพแวดล้อม แต่ยังสามารถฟื้นฟูระบบนิเวศให้กลับมาดียิ่งขึ้น เสริมสร้างความสมดุลของชุมชน และสร้างโมเดลธุรกิจที่ “เติบโตได้ พร้อมคืนคุณค่า” ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่ตอบโจทย์ผู้บริโภครุ่นใหม่ นักลงทุน และพันธมิตรทางธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับคุณค่าทางสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
“รัฐบาลพร้อมเดินหน้าสนับสนุนแนวคิดเศรษฐกิจแบบฟื้นฟูในทุกมิติ โดยจะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับภาคเอกชน ภาครัฐ และภาคประชาชน เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่อนาคตที่เติบโตอย่างมั่นคง ยั่งยืน และสามารถบรรลุเป้าหมาย Net Zero ได้อย่างเป็นรูปธรรม”นายพิชัย กล่าว
-033
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี