นายพีระศักดิ์ บุญมีโชติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFM ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำและอาหารสัตว์เศรษฐกิจ เปิดเผยว่า จากกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจอาหารสัตว์น้ำยั่งยืน ที่ให้ความสำคัญกับการรักษาคุณภาพ ใส่ใจลูกค้าเก่าและใหม่ พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง เพื่อให้ตอบโจทย์ตรงใจลูกค้า ทำให้บริษัทยังคงสามารถรักษาการเติบโตของรายได้และกำไรได้อย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะยอดขายอาหารสัตว์น้ำที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2568 ที่เพิ่มขึ้นจากช่วงต้นปี ซึ่งเป็นผลจากการเข้าสู่ช่วง Peak Season ของอุตสาหกรรม และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่าอาหารกุ้งและอาหารปลากะพงมีการเติบโตที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยการเติบโตในส่วนของอาหารกุ้ง ได้รับแรงสนับสนุนจากคุณภาพอาหารที่ดีและสม่ำเสมอ ทำให้ส่งผลดีต่อผลการเลี้ยงกุ้งของลูกค้า และช่วยส่งผลต่อการใช้อาหารเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันการขยายฐานลูกค้าใหม่และความร่วมมือกับพันธมิตรผู้ผลิตลูกกุ้ง ยิ่งช่วยเสริมการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด นอกจากนี้แนวโน้มความต้องการอาหารกุ้งยังคงเติบโตต่อเนื่องจากการบริโภคภายในประเทศและส่งออก
ในขณะที่อาหารปลากะพง บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคกลาง ส่งผลให้ยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตลาดปลากะพงในปัจจุบันยังมีความต้องการอาหารที่สามารถตอบโจทย์การผลิตเนื้อปลาคุณภาพสูง โดยเน้นลดการใช้ยาปฏิชีวนะ ลดสารตกค้าง และเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการเพื่อการเจริญเติบโตที่ดี ดังนั้นเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว บริษัทจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรม ความยั่งยืนและประสิทธิภาพในการใช้อาหาร
ทั้งนี้เพื่อรองรับการเติบโต บริษัทจึงเดินหน้าขับเคลื่อนแผนการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2568 บริษัทมีงบลงทุนรวมกว่า 300 ล้านบาท ส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่โครงการที่ได้รับการส่งเสริมจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เป้าหมายหลัก คือ การยกระดับประสิทธิภาพการผลิต โดยโครงการ BOI ที่กำลังดำเนินการอยู่ในปัจจุบันมีเป้าหมายหลักเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับคุณภาพของอาหารสัตว์น้ำให้มีความสม่ำเสมอ อีกทั้งตั้งเป้าลดต้นทุนการผลิตผ่านการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรให้มีระบบควบคุมอัตโนมัติที่ทันสมัยและแม่นยำยิ่งขึ้น และมีการนำเทคโนโลยีประหยัดพลังงานมาใช้ในกระบวนการผลิต
โครงการดังกล่าวประกอบด้วย การลงทุนในสายการผลิตอาหาร 4 สายการผลิต แบ่งเป็น สายการผลิตอาหารปลา 2 ไลน์ที่โรงงานมหาชัย และอาหารกุ้ง 2 ไลน์ที่โรงงานระโนด โดย 3 ไลน์เป็นการเปลี่ยนเครื่องจักรเดิมเป็นระบบอัตโนมัติที่ทันสมัย อีก 1 ไลน์เป็นการเพิ่มกำลังการผลิตอาหารกุ้งโดยใช้ระบบอัตโนมัติเช่นเดียวกัน รองรับความต้องการภาคใต้ ครอบคลุมกว่า 60% ของกำลังการผลิตรวม ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนเท่านั้น แต่ยังเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนบริษัทไปสู่ระบบการผลิตอัจฉริยะตามแนวทาง Industry 4.0 เพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งในประเทศและตลาดส่งออก โดยโครงการทั้งหมดมีกำหนดแล้วเสร็จและพร้อมเปิดดำเนินการภายในเดือนสิงหาคม 2568
อย่างไรก็ตามแม้ภาพรวมเศรษฐกิจยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน บริษัทยังคงมุ่งลงทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน สร้างการเติบโตในระยะยาว ตอกย้ำสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยปีที่ผ่านมาบริษัทสร้างกระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงานได้ถึง 741 ล้านบาท เทียบกับภาระหนี้สินที่มีดอกเบี้ยเพียง 220 ล้านบาท สะท้อนถึงความสามารถในการบริหารจัดการเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยกระแสเงินสดที่มั่นคง สภาพคล่องสูง หนี้สินต่ำ ขณะเดียวกันยังมีอัตราการหมุนเวียนสินค้าที่ยอดเยี่ยม บริษัทจึงพร้อมเดินหน้าค้นหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆที่สามารถต่อยอดธุรกิจและสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างยั่งยืนในระยะยาว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี