nn ต้องยอมรับว่าการที่...ประเทศเวียดนามสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐได้แล้ว...โดยประเด็นหลักคือ...เวียดนามยอมลดภาษีสินค้าจากสหรัฐเหลือ 0% และสหรัฐลดภาษีสินค้านำเข้าที่มาจากเวียดนามโดยตรงเหลือ 20% และสินค้าของประเทศอื่นที่มาใช้สิทธิ์ประเทศเวียดนามแล้วส่งออกไปสหรัฐ ที่ 40%...ได้สร้างปรากฏการณ์ที่ต้องจับตาอย่างยิ่งสำหรับระเทศอื่นๆ ที่กำลังเจรจาอยู่กับสหรัฐ...เพราะนี่จะเป็นบรรทัดฐานที่สหรัฐเอาไปเจรจากับประเทศอื่นว่าอย่างน้อยต้องทำให้ดีกว่าที่เวียดนามเสนอมา

สำหรับประเทศไทยนั้นยิ่งสำคัญมากๆเพราะเวียดนามคู่แข่งทางการค้าและการดึงดูดการลงทุนสำคัญของประเทศไทย...เมื่อเวียดนามให้ได้สหรัฐได้ในระดับ 0%...ให้ได้เท่านี้หรือเปล่า???...ตอบตรงนี้เลยว่าไม่ได้แน่ๆ...สินค้าที่ไทยจะเปิดการนำเข้าจากสหรัฐตามที่สหรัฐต้องการนั้นก็รู้กันอยู่ว่าในกลุ่มสินค้าเกษตรและปศุสัตว์มีความอ่อนไหวมากๆ สำหรับประเทศไทย...เพราะเมื่อใดที่เกษตรกรได้รับผลกระทบ...รัฐบาล..ก็ย่อมได้รับแรงกดดันทันที...และยิ่งในภาวะที่รัฐบาลค่อนข้างจะอ่อนแอเช่นนี้ด้วยแล้ว...ภูมิต้านทานต่อแรงกดดันย่อมต่ำมากๆ

จากข้อเดิม 5 ข้อที่ไทยเตรียมไว้บวกกับข้อเสนอใหม่(ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง)ที่เตรียมจะไปนำเสนอต่อสหรัฐ...ก็ตอบได้ยากว่าจะเป็นที่พอใจของสหรัฐแค่ไหน???...ถ้าถึงวันที่กำหนดเส้นตาย 9 ก.ค.68 นี้แล้ว...ยังไม่ได้ข้อตกลง(เพราะเราเพิ่งจะเริ่มได้คุยครั้งแรก)....สินค้าไทยจะโดนภาษี 36.% ไปอีกนานแค่ไหน....จนกว่าที่จะเจรจาสำเร็จซึ่งก็ยังไม่รู้ด้วยว่าสุดท้ายแล้วจะมาอยู่ในระดับ 20% เท่ากันกับเวียดนาม หรือเปล่า...และต่อให้ภาษีเท่ากันที่ 20% สินค้าไทย(ชนิดเดียวกัน) ก็สู้กับเวียดนามไม่ได้อยู่แล้วในด้านของราคา

คำถามสำคัญอีกเรื่อง...ทำไมเวียดนามจึงยอมสหรัฐได้ทุกอย่างขนาดนั้นได้...คำตอบคือ...ก็รู้กันว่าเวียดนามรู้ตัวมาก่อนว่าจะต้องเจออะไร...แล้วก็รู้ว่าต้องรีบทำอะไร...ก็เลยมีการประกาศแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจหลายเรื่อง...เช่น ลดขนาดภาคราชการ เพื่อลดค่าใช้จ่ายของรัฐ....ลดจำนวน กระทรวงเพื่อลดขั้นตอนการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของส่วนราชการ...เน้นเศรษฐกิจที่อิงกับการพึ่งพากลไกตลาดเสรีมากขึ้น และยกระดับการศึกษาต่อเนื่อง ฯลฯ

หันมามองประเทศไทย...เรื่องนี้ไม่ใช่ไม่รู้...เรารู้ว่าจะต้องเจออะไรหลังจากที่คาดเดาได้ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จะชนะเลือกตั้ง...จากวันนั้นจนมาถึงวันนี้เป็นเวลาเกือบ 2 ปี...บอกตรงๆ เลยว่ารัฐบาลไทย...ไม่ได้เตรียมการสำหรับการรับมือกับเรื่องนี้เลย...เพราะวันๆ มัวแต่เสียเวลาไปกับการ “รักษาอำนาจทางการเมือง”...มีรัฐบาลแบบนี้พวกเรามีแต่จะตายกันหมด....nn