ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) สรุปมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตามกลุ่มนักลงทุน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม- 4 กรกฎาคม  2568 พบว่าสถาบันในประเทศขายสุทธิ 11,893.33  ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์(โบรกเกอร์) ขายสุทธิ 12,274.00 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 82,550.23 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศ(รายย่อย)ซื้อสุทธิ 106,717.56 ล้านบาท

เฉพาะช่วงวันที่ 1-4 กรกฎาคม 2568 พบว่าสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 5,371.32 ล้านบาท โบรกเกอร์ซื้อสุทธิ 239.43 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 3,857.47 ล้านบาท รายย่อยขายสุทธิ 1,753.27 ล้านบาท

บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปความเคลื่อนไหวช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยขยับขึ้นช่วงต้นสัปดาห์ ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด รวมถึงแรงซื้อหุ้นบริษัทสื่อสารรายใหญ่ (หลังจบการประมูลคลื่นความถี่รอบใหม่) และหุ้นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่แห่งหนึ่งตามทิศทางหุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ดัชนีหุ้นไทยดีดตัวขึ้นแรงในเวลาต่อมาหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวช่วยคลายความกังวลบางส่วนต่อการยกระดับความรุนแรงของกลุ่มผู้ชุมนุม ดัชนีหุ้นไทยยังมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากความคาดหวังเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างไทยและสหรัฐฯ หลังมีรายงานข่าวเกี่ยวกับกำหนดการเดินทางไปสหรัฐฯ ของทีมเจรจาไทย

อย่างไรก็ดีดัชนีหุ้นไทยลดช่วงบวกลงบางส่วนในช่วงท้ายสัปดาห์ตามแรงขายเพื่อลดความเสี่ยงของนักลงทุนระหว่างรอติดตามประเด็นมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ซึ่งใกล้สิ้นสุดการผ่อนผันในวันที่ 9 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ โดยเฉพาะข้อสรุปของการเจรจาระหว่างไทยและสหรัฐฯ ประกอบกับต่างชาติยังคงขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่อง

ในวันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม 2568 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,119.94 จุด เพิ่มขึ้น 3.47% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 37,322.61 ล้านบาท ลดลง 18.41% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 3.02% มาปิดที่ระดับ 234.54 จุด

สำหรับสัปดาห์นี้ (7-11 กรกฎาคม 2568) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,110 และ 1,100 จุด แนวต้านอยู่ที่ 1,145 และ 1,160 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมิถุนายนของไทย ประเด็นเกี่ยวกับมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ซึ่งจะครบกำหนดระยะผ่อนผันในวันที่ 9 กรกฎาคม สถานการณ์การเมืองในประเทศ รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ