น.ส.สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการนำคณะเข้าหารือกับผู้บริหาร H Mart ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกสินค้าเอเชียที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ประกอบด้วย Rich Lee กรรมการบริหาร , Joohye Kang ผู้จัดการอาวุโส และ Vesper Hsu ฝ่ายจัดซื้อ ว่า กรมฯและ H Mart ได้มีการแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับความต้องการสินค้าไทยที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทมีแผนที่จะเปิดสาขาใหม่อีก 3 สาขาภายในปีนี้ และมีแนวโน้มจะขยายบริษัทเพิ่มเติมอีกในอนาคต จึงทำให้บริษัทมีความต้องการนำเข้าสินค้ามากขึ้น และขอให้กรมจัดหาผู้ส่งออกไทยเพิ่มขึ้น

โดยบริษัทให้กรมฯจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจให้กับสินค้าประเภทข้าว ข้าวหอมมะลิ น้ำผลไม้เมืองร้อน เช่น น้ำมะพร้าว น้ำกะทิ น้ำส้ม น้ำสับปะรด เป็นต้น โดยบริษัทแจ้งว่าแม้จะกังวลเรื่องอัตราภาษี แต่จะนำเข้าสินค้าไทยต่อไป และมีความมั่นใจว่าภาครัฐไทยจะมีมาตรการต่าง ๆ ที่จะสามารถช่วยเหลือผู้ส่งออกไทย โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในสหรัฐฯ

พร้อมกันนี้กรมฯยังได้หารือประเด็นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับห้าง H Mart เพิ่มเติมในลักษณะของร้านที่ขายสินค้าไทยโดยเฉพาะ ภายใต้ชื่อร้าน “TOPTHAI” เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงและเลือกซื้อสินค้าจากประเทศไทยได้ง่ายขึ้น ซึ่งกรมฯได้จัดทำรูปแบบร้านออนไลน์ TOPTHAI ลักษณะนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้วกว่า 10 แพลตฟอร์มในหลายประเทศ โดยปีที่ผ่านมา กรมเคยร่วมกับบริษัทจัดกิจกรรม Online In-Store Promotion เพื่อส่งเสริมการขายสินค้าไทยแล้ว อาทิ ข้าวหอมมะลิ กะทิ น้ำมะพร้าว ขนมขบเคี้ยว เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม-1 กันยายน 2567 มียอดขายสินค้าไทยกว่า 8.4 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน กรมฯได้เชิญให้ผู้บริหาร H Mart เข้าร่วมชมและเลือกซื้อสินค้าอาหารไทย ในงาน THAIFEX–ANUGA ASIA ปี 2569 เพื่อคัดเลือกสินค้าไทยนำไปจำหน่ายเพิ่มเติม นอกเหนือจากสินค้าที่มีการนำเข้าอยู่แล้ว รวมทั้ง ได้เชิญบริษัทเข้าร่วมงานกิจกรรมประชาสัมพันธ์ข้าวและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากข้าว เพื่อได้รับรู้และลิ้มรสอาหารไทยในหลายเมนูที่จัดโดย สคต. ณ นครนิวยอร์ก ที่จะจัดขึ้นในปีถัดไป

สำหรับ H Mart เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตเอเชียน-อเมริกัน ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ปัจจุบัน H Mart มีทั้งหมดใน 16 รัฐของสหรัฐฯ ซึ่งตั้งเป้าว่าจะขยายเป็น 87 สาขาภายในปีนี้  และมีรายได้รวมต่อปีอยู่ระหว่าง 1,200–1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 43,200–54,000 ล้านบาท สำหรับสินค้าไทย ปัจจุบันบริษัทได้นำเข้าสินค้าจากไทยแล้ว อาทิ อาหารทะเล ผลไม้แช่แข็ง ผลไม้กระป๋อง ผลไม้อบแห้ง ข้าวหอมมะลิ เส้นก๋วยเตี๋ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซอสปรุงรส น้ำปลาร้า ขนมขบเคี้ยว และอาหารสำเร็จรูป