SINO รุกใหญ่ ‘ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น’

SINO รุกใหญ่ ‘ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น’

วันพฤหัสบดี ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 15.41 น.

“บมจ.ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น” หรือ SINO ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล รุกใหญ่ "ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น" เดินหน้าโครงการ VOYA ยกระดับเทคโนโลยีขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ รองรับเป้าหมายก้าวเป็นผู้นำการบริการ

โลจิสติกส์ระหว่างประเทศครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน ลงทุนติดตั้งระบบ Freight Cloud System เพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการกระบวนการขนส่งสินค้าและติดตามสถานการณ์จัดส่งแบบเรียลไทม์ และติดตั้งระบบ SAP S4/HANA เพิ่มประสิทธิภาพบริหารงานบัญชี เชื่อมต่อข้อมูลธุรกรรมอย่างสมบูรณ์ ไม่ทำงานซ้ำซ้อน พร้อมจัดตั้งคณะทำงานขับเคลื่อน Business Blueprint และวางแผนนำ AI ประยุกต์ใช้หลากหลายด้าน


นายนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SINO เปิดเผยว่า บริษัทฯ รุกขยายการลงทุนด้านเทคโนโลยีดิจิทัลครั้งสำคัญภายใต้ชื่อโครงการ VOYA เพื่อเพิ่มศักยภาพการบริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทั่วโลก สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าและรายละเอียดของการบริการที่มีความซับซ้อนได้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนรองรับเป้าหมายในอนาคตที่จะก้าวเป็นผู้นำการบริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน

การเดินหน้าดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นครั้งนี้ใช้งบลงทุนประมาณ 16 ล้านบาท ประกอบด้วยการลงทุน 2 ส่วน ได้แก่ 1) การลงทุนพัฒนาและติดตั้งระบบ Freight Cloud System เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการกระบวนการขนส่งสินค้า เพิ่มความรวดเร็ว แม่นยำ และสามารถติดตามสถานการณ์จัดส่งแบบเรียลไทม์ และ 2) การติดตั้งระบบ SAP S4/HANA ซึ่งเป็นระบบ ERP อันดับหนึ่งของโลก เพื่อใช้บริหารจัดการงานบัญชีและการเงิน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านความถูกต้อง โปร่งใส และรองรับการตรวจสอบอย่างเป็นระบบ โดย 2 ระบบนี้จะเชื่อมต่อข้อมูลธุรกรรมกันอย่างสมบูรณ์ ไม่มีการทำงานซ้ำซ้อน

นางสาวอรชพร วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัทไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้รับผิดชอบหลักในการบริหารและดำเนินโครงการ VOYA เปิดเผยว่า จุดเด่นของการลงทุนครั้งนี้ บริษัทฯ ทำการออกแบบโครงสร้างระบบเป็น Global Template เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต และใช้เทคโนโลยี Robotic Process Automation (RPA) เชื่อมต่อการรับข้อมูลจากแหล่งต่างๆ แทนการทำงานที่ต้องทำซ้ำๆ ได้อย่างอัตโนมัติ เพื่อลดภาระและเพิ่มความแม่นยำของข้อมูลที่จะให้บริการแก่ลูกค้า รวมถึงออกแบบให้เชื่อมโยงการทำธุรกรรมระหว่างบริษัทในเครือแบบ Inter-company Transaction สามารถเชื่อมต่อการทำงานถึงกันอย่างรวดเร็ว

“เราได้จัดตั้งคณะทำงาน Project Core Team โดยคัดเลือกสมาชิกจากพนักงานที่มีประสบการณ์และความรู้ความสามารถสูงสุดจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมโครงการ ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการจัดทำ Business Blueprint เพื่อออกแบบปรับปรุงกระบวนการทำงานใหม่อย่างละเอียดทุกด้าน” นางสาวอรชพร กล่าว

นายนันท์มนัสกล่าวอีกว่า เทคโนโลยี AI เป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงาน และเพิ่มความสามารถการตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างตรงจุด โดยมีแผนประยุกต์ใช้ AI กับงานหลากหลายด้าน อาทิ การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า, ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร, วิเคราะห์ข้อมูลต้นทุน ฯลฯ เพื่อให้ทีมขายสามารถแนะนำลูกค้าได้ถึงแนวโน้มค่าระวางขนส่งสินค้า (Freight)

นอกจากนี้ บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพบุคลากร เพื่อทำงานร่วมกับเทคโนโลยีใหม่ได้อย่างมีประสิทธิผล โดยไม่ได้มองว่า AI จะมาทดแทนการทำงานของบุคลากร แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยเสริมศักยภาพให้ทีมงานสามารถบริการแก่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และมีคุณภาพยิ่งขึ้น ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน

- 030 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top