นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์และโฆษก ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยเดือนมิถุนายน 2568 ชะลอลงจากเดือนก่อน โดยการส่งออกสินค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงหลังจากที่เร่งไปช่วงก่อน สำหรับกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยวลดลงตามจำนวนและรายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนลดลง โดยระยะข้างหน้าการบริโภคมีแรงกดดันจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวจากทั้งการใช้จ่ายของรัฐบาลกลางและการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวตามการลงทุนในหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์
ในขณะที่เสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบน้อยลงจากเดือนก่อน ตามอัตราเงินเฟ้อหมวดอาหารสดจากราคาผักที่ปรับสูงขึ้น ด้านอัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงานติดลบน้อยลงตามราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศ สอดคล้องกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานทรงตัว โดยราคาเครื่องประกอบอาหารและอาหารสำเร็จรูปปรับลดลง แต่ราคาอาหารพร้อมทานปรับเพิ่มขึ้น สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดกลับมาเกินดุลจากดุลบริการ รายได้ และเงินโอนที่ขาดดุลลดลง ขณะที่ตลาดแรงงานโดยรวมทรงตัวจากเดือนก่อน แต่ยังต้องติดตามสัดส่วนผู้ขอรับสิทธิว่างงานต่อผู้ประกันตนรวมที่เพิ่มขึ้น
สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 2 ปี 2568 นั้นขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน โดยมีแรงส่งจากการส่งออกสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องจักร ตามแนวโน้มอุปสงค์สินค้าเทคโนโลยีของโลกและบางส่วนเป็นการเร่งส่งออกในช่วงที่ภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ยังอยู่ในช่วงผ่อนผัน สอดคล้องกับการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นในหมวดเซมิคอนดักเตอร์ รวมถึงการผลิตยานยนต์ที่เพิ่มขึ้นตามยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า ด้านการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวตามการเบิกจ่ายลงทุน และการลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้นตามการลงทุนในหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ อย่างไรก็ดีการบริโภคภาคเอกชนชะลอลง และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคท่องเที่ยวชะลอลง ตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลงโดยเฉพาะกลุ่มตลาดระยะใกล้ (short haul) แม้ภาพรวมรายรับเพิ่มขึ้นตามการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มตลาดระยะไกล (long haul)
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงจากไตรมาสก่อน จากหมวดพลังงานที่ปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก และหมวดอาหารสดที่ปรับลดลงจากผลฐานสูงของราคาผักและผลไม้ในปีก่อน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากราคาในหมวดอาหาร สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลลดลงจากไตรมาสก่อนจากดุลบริการ รายได้ และเงินโอนที่ขาดดุลเพิ่มขึ้นตามการส่งกลับกำไรตามฤดูกาล ด้านตลาดแรงงานโดยรวมทรงตัวจากไตรมาสก่อน
ส่วนแนวโน้มระยะต่อไปนั้น เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มชะลอลงจากผลกระทบของนโยบายการค้าโลกต่อการส่งออกสินค้า การผลิตทั้งภาคเกษตรและอุตสาหกรรม และรายได้ของแรงงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มชะลอลง และมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ 1.ผลของการเจรจาการค้าของไทยและประเทศต่างๆกับสหรัฐฯ 2.สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา 3.พัฒนาการภาคการท่องเที่ยว 4.ผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ และ 5.ผลจากมาตรการเศรษฐกิจของภาครัฐ
ขณะที่ นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงผลการประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 ว่า กระทรวงการคลังคาดการณ์จีดีพีไทยในปี 68 ขยายตัว 2.2% จากประมาณการณ์เศรษฐกิจเดิม 2.1% สอดคล้องกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศที่คาดการณ์จีดีพีไทย เติบโต 2% และเศรษฐกิจโลกขยายตัว 3% โดยมีแรงหนุนจากหลายปัจจัย ทั้งการส่งออก คาดว่าขยายตัวที่ 5.5% ต่อปี เนื่องจากการเร่งนำเข้าของประเทศคู่ค้า แต่การส่งออกสินค้าของไทยในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 อาจ ชะลอตัวลงจากผลกระทบของภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ คาดว่าไทยได้รับข้อตกลงการผ่อนปรนภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ โดยคาดหวังไทยมีช่วงภาษีนำเข้าสหรัฐ 15-36%
“เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะขยายตัวได้ดีในครึ่งปีแรก ยอมรับว่าเศรษฐกิจไทย เผชิญความท้าทายจากแรงกดดันจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ กระทบต่อไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยกระทรวงการคลังได้เตรียมตัวรับมือและบรรเทาสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจัดเตรียมสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษผ่านแบงก์รัฐ ส่วนความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ได้ขยายวงเงินทดรองราชการให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ จังหวัดละ 100 ล้านบาท และพร้อมพิจารณาขยายเพิ่มหากไม่เพียงพอเพื่อให้จังหวัดสามารถบริหารจัดการได้อย่างคล่องตัว การเลื่อนกำหนดเวลาชำระภาษี การให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อเสริมสภาพคล่องและพักชำระหนี้ เพื่อรวมฟื้นเศรษฐกิจชายแดนไทย-กัมพูชา”นายพรชัย กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี