นายดิลลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT เปิดเผยผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งช่วงครึ่งปีแรก 2568 ว่า MINT มีกำไรจากการดำเนินงานเติบโตขึ้น 22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ที่อัตราแลกเปลี่ยนคงที่) อยู่ที่ 3,461 ล้านบาท สะท้อนถึงการดำเนินงานอย่างมีวินัยตามกลยุทธ์ระยะยาวของ MINT และความแข็งแกร่งของพอร์ตการลงทุนระดับโลกที่มีความหลากหลาย
โดยจุดเด่นของครึ่งปีแรกของปี 2568 คือ การดำเนินงานที่แข็งแกร่งและวินัยทางการเงินที่ดี ซึ่งกำไรจากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นถึง 22% เมื่อเทียบกับปีก่อน มีฐานสูงจากครึ่งปีแรก 2567 และได้รับแรงหนุนจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร
โดยอัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษี และค่าเสื่อม (EBITDA margin) ยังคงที่ด้วยการควบคุมต้นทุนอย่างเข้มงวดและการบริหารประสิทธิภาพการดำเนินงานแม้จะเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจมหภาคอย่างต่อเนื่อง ส่วนค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลง 17% เมื่อเทียบกับปีก่อน สะท้อนถึงความสำเร็จในการลดภาระหนี้และการปรับโครงสร้างเงินทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะที่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังคงแข็งแกร่ง โดยเห็นได้จากยอดจองซื้อเกินมูลค่าที่เสนอขายของหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability-Linked Bond) มูลค่า 5,000 ล้านบาท และหุ้นกู้แบบไม่มีดอกเบี้ย (Zero Coupon Bond) มูลค่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งช่วยเสริมภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำด้าน ESG ของ MINT ในภูมิภาค
ทั้งนี้ไมเนอร์ โฮเทลส์ ยุโรป แอนด์ อเมริกา (MHEA) ลดหนี้สินทางการเงินสุทธิลง 53% เหลือ 114 ล้านยูโร พร้อมทั้งไถ่ถอนหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิและมีหลักประกันมูลค่า 400 ล้านยูโร ที่จะครบกำหนดในปี 2569 ก่อนกำหนดเรียบร้อยแล้ว และหน่วยงานกำกับดูแลได้อนุมัติให้ดำเนินการเพิกถอนหุ้นของ MHEA ออกจากตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะช่วยให้การดำเนินงานมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น และเสริมศักยภาพให้ MINT สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยืดหยุ่น พร้อมสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนในระยะยาว
โดยไมเนอร์ โฮเทลส์ มีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบกับปีก่อน (ที่อัตราแลกเปลี่ยนคงที่) โดยได้รับแรงหนุนจากอัตราการเข้าพักและราคาห้องพักเฉลี่ย (ADR) ที่สูงขึ้นในจุดหมายปลายทางหลัก โดยรายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืน (RevPar) ในยุโรปและอเมริกาเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในกลุ่มประเทศเบเนลักซ์ สเปน และอิตาลี แม้เทียบกับฐานที่สูงในปีก่อน
รายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืนของมัลดีฟส์เพิ่มขึ้น 23% สะท้อนถึงความสำเร็จในการกระจายฐานลูกค้าและการพัฒนาช่องทางการขายใหม่ ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืนของไทยเพิ่มขึ้น 4% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากกลยุทธ์ด้านราคาและการทำตลาดแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย
โดยความแข็งแกร่งของแบรนด์ของ MINT การขยายธุรกิจอย่างเลือกสรรในตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง และการดำเนินงานที่คล่องตัวยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนความยั่งยืนของกำไรในระยะยาว
ไมเนอร์ ฟู้ด มีอัตราการเติบโตของกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 4% (ที่อัตราแลกเปลี่ยนคงที่) โดยไทยเป็นตลาดที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นที่สุด ทั้งนี้การเติบโตได้รับแรงขับเคลื่อนจากนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลในแบรนด์หลัก ได้แก่ GAGA, Bonchon, The Pizza Company และ Burger King และเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องผ่านโมเดลแฟรนไชส์แบบ Asset-Light โดยเร่งเปิดสาขาของแบรนด์ GAGA และ Dairy Queen เพื่อเสริมประสิทธิภาพด้านเงินลงทุน
“ความสามารถในการสร้างผลกำไรจากการดำเนินงานให้เติบโตในระดับ 2 หลัก ท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาดโลก เป็นเครื่องยืนยันชัดเจนถึงประสิทธิผลของกลยุทธ์ที่ MINT ดำเนินการมา MINT จะยังคงต่อยอดจุดแข็งที่มี ทั้งในด้านมูลค่าแบรนด์ การกระจายการลงทุนเชิงภูมิศาสตร์ และการดำเนินงานอย่างมีวินัย เพื่อสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการเติบโตของกำไร การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และการเพิ่มมูลค่าผลตอบแทนผู้ถือหุ้น”นายดิลลิป กล่าว
โดย MINT พร้อมที่จะสร้างคุณค่าอย่างต่อเนื่อง ด้วยแผนงานที่ชัดเจน ซึ่งมุ่งเน้นความเป็นเลิศในการดำเนินงาน ความแข็งแกร่งของฐานะการเงิน และความคล่องตัวเชิงกลยุทธ์ท่ามกลางภูมิทัศน์โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดนิ่ง
-033
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี