วันพฤหัสบดี ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
บีโอไอ มั่นใจญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ ปักหมุดลงทุนไทยไม่ย้ายฐานผลิต

บีโอไอ มั่นใจญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ ปักหมุดลงทุนไทยไม่ย้ายฐานผลิต

วันพุธ ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : บีโอไอ ลงทุน ส่งเริม
  •  

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอ เปิดเผยว่า กรณีที่สหรัฐปิดดีลภาษีกับประเทศอาเซียน โดยไทยถูกเรียกเก็บภาษีที่อัตรา 19% มากกว่าญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ซึ่งถูกเรียกเก็บในอัตรา 15%  เชื่อว่าจะไม่มีผลต่อการย้าย/ขยายฐานการผลิตเพราะการลงทุนเป็นการวางแผนระยะยาว อัตราภาษีเป็นเพียงหนึ่งในหลายปัจจัย ที่ผู้ประกอบการจะนำใช้พิจารณาในการเลือกแหล่งลงทุน

สำหรับบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ เช่น กลุ่มญี่ปุ่นและเกาหลีใต้การตัดสินใจย้ายหรือขยายฐานการผลิต จะพิจารณาหลายปัจจัยประกอบกัน เช่น คุณภาพของโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ ความพร้อมของซัพพลายเชน คุณภาพของบุคลากร ต้นทุนแรงงานและพลังงาน สิทธิประโยชน์และมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ  รวมถึงกฎระเบียบและสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการประกอบธุรกิจ ซึ่งประเทศไทยมีความได้เปรียบในเรื่องดังกล่าวเหล่านี้


“ในแง่ภาษีแม้จะมีส่วนต่าง 4% แต่ต้นทุนการผลิตโดยรวมในญี่ปุ่นและเกาหลี ยังสูงกว่าไทยมาก ไม่ว่าจะเป็นค่าจ้างบุคลากร ค่าที่ดิน ค่าพลังงาน หรือค่าบริหารจัดการต่างๆ ดังนั้นลำพังส่วนต่างภาษี 4% อาจยังไม่เพียงพอที่จะจูงใจให้ย้ายฐานผลิตกลับประเทศแม่”นายนฤตม์กล่าว นายนฤตม์ กล่าวว่าขณะเดียวกัน ฐานการผลิตของญี่ปุ่นในประเทศไทยมีความแข็งแกร่งสูง ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีระบบซัพพลายเชนครบวงจร และมีประสิทธิภาพในระดับต้น ๆ ของโลก นักลงทุนญี่ปุ่นยังมองไทยเป็นฐานการลงทุนที่สำคัญของภูมิภาค รวมทั้งใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกไปยังตลาดทั่วโลก มิใช่เพียงตลาดสหรัฐฯ เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยเองยังต้องเร่งยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านต่างๆ เช่น การขยายพื้นที่อุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็ว การจัดทำกลไกพลังงานสะอาดในราคาที่แข่งขันได้  การพัฒนาบุคลากรทักษะสูงรองรับอุตสาหกรรมใหม่ๆ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ PCB และเทคโนโลยี AI รวมทั้งการสร้างความสะดวกในการประกอบธุรกิจ เพื่อให้ไทยมีความสามารถในการดึงดูดการลงทุนได้ดียิ่งขึ้น

ก่อนหน้านี้นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งปี 2568  ได้อนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในไทย ภายใต้ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 จำนวน 502 ราย เพิ่มขึ้น 30%เป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 123 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (ผ่านช่องทางการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน หรือได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และการใช้สิทธิตามสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่างประเทศ) 379 ราย มูลค่าเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 111,506 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% มีการจ้างงานคนไทย 1,438 คน เพิ่มขึ้น 78%

สำหรับชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 5 อันดับแรกของครึ่งปีแรก 2568 ได้แก่ 1.ญี่ปุ่น 99 ราย คิดเป็น 20% ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทย ลงทุน 43,025 ล้านบาท 2.สหรัฐฯ 72 ราย คิดเป็น 14% ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทย ลงทุน 2,797 ล้านบาท 3.จีน 65 ราย คิดเป็น 13% ของจำนวนธุรกิจต่างชาติ ลงทุน 18,336 ล้านบาท 4.สิงคโปร์ 63 ราย คิดเป็น 13% ของจำนวนธุรกิจต่างชาติ ลงทุน 17,384 ล้านบาท 5.ฮ่องกง 51 ราย คิดเป็น 10% ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทย ลงทุน 8,309 ล้านบาท

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • บีโอไอ นำ 30 บริษัทระดับโลกพบรัฐบาล สร้างความเชื่อมั่นดึงลงทุนไทยต่อเนื่อง บีโอไอ นำ 30 บริษัทระดับโลกพบรัฐบาล สร้างความเชื่อมั่นดึงลงทุนไทยต่อเนื่อง
  • บีโอไอจัดเครดิตภาษี กระตุ้นลงทุนเพิ่มดีกรีการแข่งขัน บีโอไอจัดเครดิตภาษี กระตุ้นลงทุนเพิ่มดีกรีการแข่งขัน
  • บีโอไอ เคาะแก้ กม.เพิ่มสิทธิประโยชน์ใหม่ ‘เครดิตภาษี’ รับมือกติกาใหม่ภาษีโลก บีโอไอ เคาะแก้ กม.เพิ่มสิทธิประโยชน์ใหม่ ‘เครดิตภาษี’ รับมือกติกาใหม่ภาษีโลก
  • บอร์ดอีวีปรับหลักเกณฑ์ สร้างแรงจูงใจผลิตเพื่อการส่งออก บอร์ดอีวีปรับหลักเกณฑ์ สร้างแรงจูงใจผลิตเพื่อการส่งออก
  • บีโอไอโชว์ศักยภาพไทย ขับเคลื่อนอุตฯเซมิคอนดักเตอร์ บีโอไอโชว์ศักยภาพไทย ขับเคลื่อนอุตฯเซมิคอนดักเตอร์
  • กรมพัฒน์เผยครึ่งปีแรกต่างชาติแห่ลงทุนไทยทะลุแสนล้าน กรมพัฒน์เผยครึ่งปีแรกต่างชาติแห่ลงทุนไทยทะลุแสนล้าน
  •  

Breaking News

'ภูมิธรรม'ย้ำแล้วย้ำอีก!! ปลดล็อก'โป๊กเกอร์'เพื่อการกีฬา หวังจัดแข่งระดับสากล

'ภูมิธรรม'รับฟัง ทหารชายแดนใต้ร้องเยียวยาเทียบเท่าเหตุชายแดนไทย-กัมพูชา"

พิพิธภัณฑ์เด็กกทม.1 จตุจักร ชวนมาเป็นนักสำรวจตัวจิ๋ว สัปดาห์วิทยาศาสตร์ 12-17 ส.ค.นี้

‘ภูมิธรรม’มอบนโยบายมหาดไทย ลั่นไม่ได้ข่มขู่-อำนาจบาตรใหญ่ แต่มีแกะดำมาเป็นราชการ​

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved