นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยตัวเลขการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน เดือนมิถุนายน 2568 มีมูลค่าการค้ารวม 189,073 ล้านบาท ขยายตัว 16.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน(YOY) เป็นการส่งออก 115,427 ล้านบาท (+19.7%) และการนำเข้า 73,646 ล้านบาท (+12.3%) โดยไทยได้ดุลการค้าในเดือนมิถุนายน 2568 ทั้งสิ้น 41,781 ล้านบาท ส่งผลให้ 6 เดือนแรกของปี 2568 การค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนมีมูลค่าการค้ารวม 1,022,244 ล้านบาท (+12.0%) เป็นการส่งออก 596,261 ล้านบาท (+11.6%) การนำเข้า 425,983 ล้านบาท (+12.7%) และไทยได้ดุลการค้า 170,277 ล้านบาท
ทั้งนี้การค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ เดือนมิถุนายน 2568 มีมูลค่าการค้ารวม 76,404 ล้านบาท (-3.8%) เป็นการส่งออก 47,207 ล้านบาท (-2.1%) การนำเข้า 29,197 ล้านบาท (-6.6%) และไทยได้ดุลการค้ารวมทั้งสิ้น 18,010 ล้านบาท โดยการค้าชายแดนกับมาเลเซีย มีมูลค่าสูงสุด 25,720 ล้านบาท (-2.00%) รองลงมา คือ สปป.ลาว 22,588 ล้านบาท (+0.8%) เมียนมา 17,188 ล้านบาท (+3.8%) และกัมพูชา 10,908 ล้านบาท (-23.3%) ซึ่งสินค้าส่งออกชายแดนสำคัญในเดือนมิถุนายน 2568 ได้แก่ น้ำมันดีเซล 2,843 ล้านบาท น้ำมันสำเร็จรูปอื่นๆ 1,583 ล้านบาท และสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรอื่น ๆ 1,383 ล้านบาท ทำให้ 6 เดือนแรกของปี 2568 การค้าชายแดนมีมูลค่ารวม 506,061 ล้านบาท (+2.5%) เป็นการส่งออก 308,248 ล้านบาท (+0.9%) และการนำเข้า 197,813 ล้านบาท (+5.2%)
ด้านการค้าผ่านแดนไปประเทศที่สาม เดือนมิถุนายน 2568 มีมูลค่าการค้ารวม 112,670 ล้านบาท (+36.5%) เป็นการส่งออก 68,220 ล้านบาท (+41.5%) และการนำเข้า 44,449 ล้านบาท (+29.4%) โดยการค้าผ่านแดนไปจีน มีมูลค่าสูงที่สุด 68,992 ล้านบาท (+41.6%) รองลงมาคือ สิงคโปร์ และเวียดนาม มีมูลค่า 13,511 ล้านบาท (+28.4%) และ 7,674 ล้านบาท (+12.9%) ตามลำดับ ซึ่งสินค้าส่งออกผ่านแดนสำคัญในเดือนมิถุนายน 2568 ได้แก่ ทุเรียนสด 22,122 ล้านบาท ฮาร์ด ดิสก์ ไดรฟ์ 12,631 ล้านบาท และเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ 5,880 ล้านบาท ทำให้ 6 เดือนแรกของปี 2568 การค้าผ่านแดนมีมูลค่ารวม 516,183 ล้านบาท (+23.2%) เป็นการส่งออก 288,012 ล้านบาท (+25.8%) และการนำเข้า 228,171 ล้านบาท (+20.1%)
นางอารดา กล่าวอีกว่า การค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยในเดือนมิถุนายน 2568 ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง โดยการส่งออกผ่านแดนไปจีน ขยายตัวสูงถึง 50.6% โดยเฉพาะผลไม้ เช่น ทุเรียนสด 22,122 ล้านบาท (+42.4%) มังคุดสด 3,666 ล้านบาท (+131.2%) ในขณะที่การส่งออกผ่านแดนไปสิงคโปร์ เวียดนาม และประเทศอื่นๆ ก็ขยายตัวสูงเช่นกัน 49.4% 72.2% และ 11.1% ตามลำดับ โดยสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ฮาร์ด ดิสก์ ไดรฟ์ 12,911 ล้านบาท (+4.6%) และส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ 1,128 ล้านบาท (+234.6%) และสินค้าผลิตภัณฑ์ยางพารา เช่น ยางสังเคราะห์ 2,269 ล้านบาท (+58.6%) เป็นกลุ่มสินค้าส่งออกที่ขยายตัวสูง
อย่างไรก็ตามการค้าชายแดนด้านกัมพูชาที่หดตัวสูงถึง -23.3% จากมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนไทย-กัมพูชาที่เริ่มต้นมาตรการในขั้นที่ 1 และ 2 ในการจำกัดการผ่านเข้า-ออกของบุคคล และปรับเวลาการเปิด-ปิดด่าน ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2568 จนถึงมาตรการการงดการผ่านเข้า-ออกของยานพาหนะทุกประเภทในวันที่ 23 มิถุนายน 2568 ตลอดจนประกาศของฝั่งกัมพูชาที่ตัดการนำเข้าไฟฟ้าจากไทย ทำให้มูลค่าการส่งออกชายแดนไทย-กัมพูชาลดลงเหลือ 8,961 ล้านบาท (-23.8%) โดยสินค้าส่งออกสำคัญที่หดตัว ได้แก่ เครื่องดื่มอื่นๆ เช่น นม UHT นมถั่วเหลือง (-23.6%) พลังงานไฟฟ้า (-48.8%) น้ำแร่น้ำอัดลมที่ปรุงรส (-24.6%) และครีมเทียม (-17.9%) เป็นต้น ทั้งนี้ยังคงต้องติดตามข้อมูลในเดือนกรกฎาคมซึ่งน่าจะเห็นผลกระทบต่อการค้าชายแดนชัดเจนขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี