วันพฤหัสบดี ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
สสว. ดัน SME เครื่องดื่มไทยสู่เวทีนานาชาติ

สสว. ดัน SME เครื่องดื่มไทยสู่เวทีนานาชาติ

วันพุธ ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 10.25 น.
Tag : เครื่องดื่ม ดัชนี ผู้ประกอบการ สสว. เอสเอ็มอี
  •  

นางสาวปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.)  เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีด้านเครื่องดื่มและธุรกิจบันเทิงยามค่ำคืนในประเทศไทย มีความหลากหลายและมีศักยภาพในการเติบโตสูง ธุรกิจเครื่องดื่ม ปัจจุบัน มีตั้งแต่ร้านกาแฟเล็กๆ ร้านอาหารที่มีดนตรีสด ไปจนถึงผู้ผลิตเครื่องดื่มเฉพาะทางทั้งที่มีแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์ ในขณะที่ธุรกิจบันเทิงยามค่ำคืน รวมถึง ร้านอาหาร ผับ บาร์ หรือคลับต่าง ๆ ที่กำลังเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้น จากการขยายตัวของตลาดท่องเที่ยว การปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง

ทั้งนี้ สสว. ได้ยกระดับขีดความสามารถด้านการตลาดแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกว่า 50 ราย โดยการสนับสนุนงบประมาณผ่านระบบ BDS “Business Development Service” หรือ “SME ปัง ตังได้คืน” ในการออกบูธงานแสดงสินค้านานาชาติ ผับ บาร์ เอเชีย 2568 (Pub Bar Asia 2025) งานแสดงสินค้าด้านเครื่องดื่ม โรงแรม ร้านอาหารแบบไฟน์ไดนิ่ง (Fine Dining) และอุตสาหกรรมบันเทิงยามค่ำคืนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-27 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา


นางสาวปณิตา กล่าวว่า การเข้าร่วมงาน ผับ บาร์ เอเชีย 2568 (Pub Bar Asia 2025) ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ในประเทศไทย ถือเป็นเวทีเจรจาการค้าระดับนานาชาติที่รวบรวมผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม ผับ บาร์ ร้านอาหาร และธุรกิจไนท์ไลฟ์จากกว่า 60 ประเทศทั่วโลก เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย และพม่า โดยปีนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าชมกว่า 5,600 ราย ทั้งจากในและต่างประเทศ จึงถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะช่วยพัฒนาศักยภาพทางการตลาดของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งมีข้อจำกัดตามข้อกำหนดกฎหมายจากพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ไม่อนุญาตให้โฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกรูปแบบ รวมถึงการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านช่องทางจำหน่ายออนไลน์ ซึ่งข้อจำกัดดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันโดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กในการสร้างการรับรู้ของตลาดผู้บริโภค จึงทำให้การทำการตลาดที่เน้นการสร้างประสบการณ์ร่วมกับผู้บริโภคโดยตรง (On-ground Marketing) เป็นช่องทางสำคัญในการสร้างแบรนด์และเข้าถึงผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มเป็นสาขาการผลิตที่สำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมของไทย เป็นอันดับที่ 1 ในภาคอุตสาหกรรม คิดเป็นมูลค่า 941,693 ล้านบาท โดยเป็นมูลค่าจาก SMEs 312,848 ล้านบาท หรือมีสัดส่วนร้อยละ 33.2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวม ในสาขาอาหารและเครื่องดื่ม มีจำนวน SMEs ซึ่งอยู่ในอุตสาหกรรมทั้งสิ้น 136,663 ราย คิดเป็นร้อยละ 4.56 ของจำนวน SMEs ทั้งหมดของประเทศ มีการจ้างงาน 524,497 คน คิดเป็นร้อยละ 4.31 ของการจ้างงานรวม

นางสาวปณิตา กล่าวว่า สสว. เล็งเห็นถึงโอกาสในการพัฒนาผู้ประกอบการในกลุ่มนี้ จึงได้ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เข้าสู่ระบบ BDS “Business Development Service” หรือ “SME ปัง ตังได้คืน” ซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการสามารถขอรับการสนับสนุนค่าใช้จ่าย 50-80% หรือ สูงสุดถึง 200,000 บาท เพื่อช่วยลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาศักยภาพของธุรกิจ

โดยในปี 2568 นี้ สสว. ยังคงเดินหน้าผลักดันผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบ BDS “Business Development Service” หรือโครงการ “SME ปัง ตังได้คืน” สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการพัฒนาธุรกิจ 5 หมวดหลัก ได้แก่ การพัฒนาคุณภาพการผลิตและบริการ การตรวจวัดมาตรฐานสินค้า เช่น ฉลากโภชนาการ การตรวจอายุสินค้า การเพิ่มผลิตภาพ เช่น ซอฟต์แวร์บริหารคลัง การพัฒนาและบริหารธุรกิจ การสร้างช่องทางตลาดและการตลาด รวมถึงเพิ่มบริการใหม่ คือ การพัฒนาธุรกิจที่มุ่งสู่เศรษฐกิจสีเขียว เช่น มาตรฐานสิ่งแวดล้อม และการตรวจสอบคาร์บอนเครดิต ปัจจุบันมีผู้ประกอบการสมัครเข้าร่วมแล้วกว่า 21,791 ราย และมีหน่วยงานผู้ให้บริการทางธุรกิจบนระบบ BDS ขึ้นทะเบียนแล้วกว่า 257 หน่วยงาน

นายสราวุธ ประสิทธิ์ส่งเสริม เจ้าของแบรนด์คร๊าฟเบียร์สัญชาติไทย “คอลมีปาป๊า” (Call Me Papa) กล่าวว่า คอลมีปาป๊า เป็นเบียร์ไทยที่ทางแบรนด์คิดค้นขึ้นเอง โดยเริ่มจากการทำให้คุณแม่ดื่ม จนพัฒนาเป็นคร๊าฟเบียร์รสชาติผลไม้ (ฟรุ๊ตตี้) อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในปัจจุบันสามารถส่งออกไปยังประเทศเนเธอร์แลนด์ได้ ซึ่งคอลมีปาป๊าได้มาออกบูธภายในงานปีนี้เป็นปีที่ 2 จากการสนับสนุนของ สสว. ซึ่งทำให้สามารถช่วยลดต้นทุนค่าบูธได้อย่างมาก นอกจากนี้ยังสามารถสร้างโอกาสในการเปิดตลาดได้จากการพบปะกับลูกค้าภายในงาน เช่น กลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร และเจ้าของกิจการผับ บาร์ต่าง ๆ ซึ่งการช่วยเหลือของ สสว. ก็จะเป็นส่วนหนึ่งของจุดเริ่มต้นที่ทำให้แบรนด์คอลมีปาป๊าได้ค่อย ๆ เติบโตต่อไป

นายพสิษฐ์ ฐิติธนารัศมิ์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ไฮคร๊าฟ ม็อคเทลผลไม้แปรรูปที่นำพืชเกษตรหลักของไทย สับปะรดและมะพร้าวมาสร้างมูลค่าเพิ่ม กล่าวว่า แบรนด์ไฮคร๊าฟเกิดภายใต้แนวคิดเมจิกดริ๊งก์ คือ เมื่อดื่มเข้าไปเป็นหนึ่งรสชาติ แต่หายใจออกมาเป็นอีกหนึ่งรสชาติ ทำให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ความสดชื่นระดับพรีเมี่ยม โดยทางแบรนด์ได้ขอรับการสนับสนุนด้านการตลาดจาก สสว. เป็นครั้งแรก ทำให้มีโอกาสทำตลาดในประเทศ และบริษัทฯ เองยังมีแผนที่จะทำการตลาดให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ซึ่งถือว่าสำคัญมากๆ และอยากฝากให้พัฒนาโครงการลักษณะนี้เพิ่มขึ้นในรูปแบบการจัดหมวดหมู่หรือเป็นคลัสเตอร์ เพื่อให้สามารถเข้าถึงการพัฒนาผู้ประกอบการในแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์เชิงลึกมากขึ้น

 

-031
 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘ฉันทวิชญ์’ หนุนผู้ประกอบการไทยปรับตัวตามกฎ RVC-ถิ่นกำเนิดสินค้า ‘ฉันทวิชญ์’ หนุนผู้ประกอบการไทยปรับตัวตามกฎ RVC-ถิ่นกำเนิดสินค้า
  • ราคาผัก-ผลไม้ลด ฉุดอัตราเงินเฟ้อลง 0.70% ราคาผัก-ผลไม้ลด ฉุดอัตราเงินเฟ้อลง 0.70%
  • ค้าชายแดน-ผ่านแดนครึ่งปี ทะลุ1ล้านล้านบาทเติบโต12% ค้าชายแดน-ผ่านแดนครึ่งปี ทะลุ1ล้านล้านบาทเติบโต12%
  • พาณิชย์ เผย4ปัจจัยลบ ฉุดดัชนีราคาผู้ผลิตร่วงทุกกลุ่มสินค้า พาณิชย์ เผย4ปัจจัยลบ ฉุดดัชนีราคาผู้ผลิตร่วงทุกกลุ่มสินค้า
  • สศอ. เผย MPI เดือน มิ.ย. 68 ขยายตัวร้อยละ 0.58 บวกต่อเนื่องเดือนที่ 3 สศอ. เผย MPI เดือน มิ.ย. 68 ขยายตัวร้อยละ 0.58 บวกต่อเนื่องเดือนที่ 3
  • เปิดฉากเสวนา \'จากไร่มันฯ สู่อนาคต : เส้นทางอุตสาหกรรมมันสำปะหลังสู่ความยั่งยืน\' เปิดฉากเสวนา 'จากไร่มันฯ สู่อนาคต : เส้นทางอุตสาหกรรมมันสำปะหลังสู่ความยั่งยืน'
  •  

Breaking News

ฮือฮา! หนุ่มกระบี่ตัวแทนคนไทย ชี้แจงเป็นภาษาอาหรับ เหตุ'กัมพูชา'ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

(คลิป) เปิดหลักฐานสำคัญ ภาพจากดาวเทียม แฉ! 'เขมร' ขนอาวุธเตรียมตัวบุก 'ไทย'

(คลิป) เผยความลับ'เขมร' แห่กลับ ที่แท้มันเป็นอย่างนี้นี่เอง!

(คลิป) มีตระกูล'ชินวัตร' และขี้ข้าไว้ทำไม?

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved