นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของไทย เดือนกรกฎาคม2568 เท่ากับ 100.15 เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม2567 ซึ่งเท่ากับ 100.86 ลดลง 0.70% เป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 นับจากเดือนเมษายน2568 ที่ลดลง 0.22% พฤษภาคม 2568 ลดลง 0.57% และ มิถุนายน 2568 ลดลง 0.25% สาเหตุหลักมาจากการลดลงอย่างต่อเนื่องของราคาสินค้าในกลุ่มผักสด ผลไม้สด และของใช้ส่วนบุคคล ประกอบกับราคาสินค้าในกลุ่มพลังงานลดลง ทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง ตามสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก และค่ากระแสไฟฟ้าตามมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ สำหรับราคาสินค้าและบริการอื่น ๆ ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อไม่มากนัก และรวมเงินเฟ้อ 7 เดือนของปี 2568 (มกราคม-กรกฎาคม) เพิ่มขึ้น 0.21%
“เงินเฟ้อเดือนกรกฎาคม2568 ที่ลดลง มีสาเหตุหลัก ๆ มาจากราคาพลังงาน ทั้งเบนซิน ดีเซล และแก๊สโซฮอล์ที่ลดลง อย่างแก๊สโซฮอล์ ราคากรกฎาคมปีนี้ เทียบกับปีก่อนต่างกันถึง 6 บาท และยังมีค่าไฟฟ้าที่ลดลงจากมาตรการของรัฐ ราคาผักสด ที่ช่วงเดียวกันปีที่แล้ว เจออากาศร้อน แล้ง ราคาสูง แต่ปีนี้ ฝนตก น้ำเยอะ ผลผลิตดี ราคาลง ส่วนผลไม้ เก็บตัวอย่างมา 32 รายการ ลดลงมากถึง 22 รายการ อีก 10 รายการไม่เปลี่ยนแปลง หรือถ้าขึ้นก็ขึ้นไม่มาก”
ทั้งนี้ สนค.มองว่า ยังไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืด แม้จะติดลบติดต่อกันมาแล้ว 4 เดือน เพราะเงินเฟ้อที่ติดลบ มาจากเรื่องพลังงาน ราคาผัก ผลไม้ เป็นหลัก ไม่ใช่มาจากประชาชนไม่มีกำลังซื้อ โดยกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ยังเพิ่มสูงขึ้น เงินเฟ้อฟื้นฐานก็สูงมาโดยตลอด ตั้งแต่ต้นปี 2568 ย้อนไปถึงปี 2567 และในอดีตที่ผ่านมา ก็เคยมีเงินเฟ้อติดลบติดต่อกันถึง 6 เดือน ช่วงตุลาคม2566-มีนาคม 2567 แต่ก็ไม่ได้เกิดภาวะเงินฝืด รวมถึงช่วงโควิด-19 ในปี 2563 ก็เคยติดลบ 13 เดือนติดต่อกัน ตั้งแต่ มีนาคม 2563-มีนาคม 2564
สำหรับรายละเอียดเงินเฟ้อเดือนกรกฎาคม 2568 ที่ลดลง 0.70% มาจากการลดลงของหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม 1.72% จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มพลังงาน (แก๊สโซฮอล์ น้ำมันดีเซล น้ำมันเบนซิน ค่ากระแสไฟฟ้า) ของใช้ส่วนบุคคล (ผลิตภัณฑ์ป้องกันและบำรุงผิว โฟมล้างหน้า น้ำยาระงับกลิ่นกาย แชมพู สบู่ถูตัว) สิ่งที่เกี่ยวกับการทำความสะอาด และเสื้อผ้า ส่วนสินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น อาทิ ค่าเช่าบ้าน ค่าแต่งผมบุรุษและสตรี และค่าอาหารสัตว์เลี้ยง
ส่วนหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เพิ่มขึ้น 0.84% จากการสูงขึ้นของกลุ่มอาหารสำเร็จรูป (ข้าวราดแกง กับข้าวสำเร็จรูป ก๋วยเตี๋ยว) กลุ่มเนื้อสัตว์ เป็ดไก่ และสัตว์น้ำ (เนื้อสุกร ปลาทู ปลานิล) กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (กาแฟผงสำเร็จรูป กาแฟ (ร้อน/เย็น) น้ำอัดลม) กลุ่มเครื่องประกอบอาหาร (กะทิสำเร็จรูป มะพร้าว (ผลแห้ง/ขูด) น้ำพริกแกง น้ำมันพืช) และกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำตาล (ขนมหวาน ไอศกรีม น้ำตาลมะพร้าว) แต่ก็มีสินค้าที่ราคาลดลง โดยเฉพาะไข่ไก่ ผลไม้สด ผักสด และอาหารโทรสั่ง (Delivery)
ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ที่หักอาหารสดและพลังงานออก เพิ่มขึ้น 0.84% ชะลอลงจากเดือน มิถุนายน 2568 ที่เพิ่มขึ้น 1.06% รวม 7 เดือน เพิ่มขึ้น 0.95%
แนวโน้มเงินเฟ้อเดือนสิงหาคม 2568 คาดว่าจะอยู่ระดับต่ำเช่นเดียวกับเดือนกรกฎาคม2568 ปัจจัยสนับสนุนจากราคาน้ำมันดิบดูไบในตลาดโลกต่ำกว่าปีก่อนหน้า เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างอ่อนแอ และความตึงเครียดจากความขัดแย้งของประเทศผู้ผลิตน้ำมันอยู่ในระดับจำกัด ภาครัฐยังคงดำเนินมาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับลดค่า Ft งวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม2568 ลง 17 สตางค์ ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าลดลงเหลือ 3.98 บาทต่อหน่วย ราคาผักสดและผลไม้สดอยู่ระดับต่ำกว่าปีก่อนหน้าค่อนข้างมาก จากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย ทำให้ปริมาณผลผลิตเข้าสู่ระบบมากขึ้น และค่าบริการด้านการท่องเที่ยวปรับตัวลดลง ตามสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยชั่วคราวต่าง ๆ ประกอบกับผู้ประกอบการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเพื่อตอบรับโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง
อย่างไรก็ตามมีปัจจัยกดดันเงินเฟ้อ จากราคาสินค้าเกษตรบางชนิดและเครื่องประกอบอาหารมีแนวโน้มสูงกว่าปีก่อนหน้า เช่น เนื้อสุกร มะพร้าว มะขามเปียก กาแฟ เกลือป่น และน้ำมันพืช เป็นต้น อัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ต่อประเทศคู่ค้าต่าง ๆ มีความชัดเจนมากขึ้น โดยเป็นอัตราที่ต่ำกว่าครั้งก่อนหน้า ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกทยอยปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ค่อย ๆ ปรับตัวสูงขึ้น โดยยังคงคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ปี 2568 อยู่ระหว่าง 0.0–1.0% ค่ากลาง 0.5% และเมื่อจบไตรมาส 3 จะพิจารณาอีกครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี