สนข. ยันการทำ EHIA โครงการแลนด์บริดจ์ เป็นไปตามกฎหมาย

สนข. ยันการทำ EHIA โครงการแลนด์บริดจ์ เป็นไปตามกฎหมาย

วันพฤหัสบดี ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 14.14 น.

นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวย การสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า ตามที่มีประเด็นการนำเสนอข่าว กรณีตัวแทนจากคณะทำงานสภาประชาชนภาคใต้ ส่งหนังสือให้คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ให้ตรวจสอบการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนโครงการแลนด์บริดจ์ ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 5 - 6 สิงหาคม ที่ผ่านมานั้น เนื่องจากพบปัญหาหลายด้าน ได้แก่ ประเด็นเนื้อหารายงาน EHIA ที่ใช้ข้อมูลไม่ตรงกับพื้นที่จริง ความไม่คุ้มทุนของโครงการ และประเด็นการจัดประชุมที่เชิญผู้เข้าร่วมประชุมไม่ครอบคลุมกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงนั้น

ทั้งนี้ สนข. และบริษัทที่ปรึกษา ได้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบเบื้องต้น ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและวิเคราะห์รูปแบบโมเดลการพัฒนาการลงทุน (Business Development Model) โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (โครงการแลนด์บริดจ์) เป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ถูกต้องตามหลักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด


อย่างไรก็ตามซี่งจากประเด็นต่าง ๆ ที่ถูกพาดพิงนั้น สนข. ขอชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริงและไม่ได้เพิกเฉยต่อประเด็นต่าง ๆ โดยที่ผ่านมา สนข. ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาดำเนินการศึกษาและออกแบบโครงการแลนด์บริดจ์ รวมถึงการศึกษาและจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ หรือ EHIA และได้กำกับติดตามการดำเนินงานของบริษัทที่ปรึกษาอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ สนข. ได้ลงพื้นที่เพื่อสร้างความเข้าใจต่อหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง สถาบันการศึกษา ผู้นำชุมชน ผู้แทนกลุ่มอาชีพ เครือข่ายภาคประชาสังคม นักวิชาการ และผู้ที่อาจได้รับผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบ จากการพัฒนาโครงการ รวมทั้งสื่อมวลชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภาคส่วนต่าง ๆ ตลอดจนพี่น้องประชาชนในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2564 จนถึงปัจจุบัน โดยได้ดำเนินการมาแล้วในรูปแบบการประชุมทั้งสิ้น จำนวนกว่า 67 ครั้ง และรูปแบบการประชาสัมพันธ์และรับฟังความเห็นประชาชนรายชุมชน และครัวเรือน ซึ่งครอบคลุมทุกตำบล ทุกอำเภอ ทั้งจังหวัดชุมพร และจังหวัดระนอง

นายปัญญาฯ กล่าวต่อว่า สำหรับการศึกษา EHIA ได้มอบหมายให้บริษัทที่ปรึกษาเริ่มการทำกระบวนการศึกษา EHIA ตั้งแต่ปี 2566 จนถึงปัจจุบัน โดยมีการรวบรวมข้อมูลทุติยภูมิ และลงพื้นที่จริงเพื่อเก็บข้อมูลปฐมภูมิ สำรวจข้อมูลคุณภาพสิ่งแวดล้อม ตรวจวัดค่าคุณภาพทางอากาศ ระดับเสียง และแรงสั่นสะเทือน คุณภาพน้ำทะเล สำรวจป่าไม้ สัตว์ทะเล สัตว์ป่า เพื่อศึกษาสภาพแวดล้อมปัจจุบันของพื้นที่ ก่อนนำไปประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม สังคม และสุขภาพ

ขณะเดียวกันรวมถึงสำรวจสภาพเศรษฐกิจ และสังคม พร้อมกันนี้ยังได้มีการจัดการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างต่อเนื่องในรูปแบบการจัดประชุมกลุ่มย่อย การสัมภาษณ์เชิงลึก การสนทนากลุ่ม การสำรวจความคิดเห็นด้วยแบบสอบถาม ควบคู่ไปกับกระบวนการศึกษา EHIA และยืนยันว่า ได้ดำเนินการตามขั้นตอนการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างถูกต้อง เป็นไปตามหลักวิชาการสามารถตรวจสอบได้

 สำหรับการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 3 โครงการพัฒนาท่าเรือบริเวณแหลมอ่าวอ่าง อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง เมื่อวันที่5 สิงหาคม 2568 มีผู้เข้าร่วมประชุม 405 ราย และโครงการพัฒนาท่าเรือบริเวณแหลมริ่ว อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2568 มีผู้เข้าร่วมประชุม 214 ราย ซึ่งได้มีการอภิปรายอย่างกว้างขวาง ทั้งผลดี ผลกระทบ ข้อคิดเห็น และข้อห่วงกังวลต่อโครงการ ซึ่ง สนข. ได้นำเอาข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็น รวมทั้งข้อกังวลต่าง ๆ จากผู้เข้าร่วมประชุมไปพิจารณาประกอบการจัดทำรายงานฯ ให้มีความถูกต้อง ครบถ้วนสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นใจในร่างรายงานและมาตรการฯ ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นต่อการดำเนินโครงการแลนด์บริดจ์ต่อไป

- 030 

 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top