รถยนต์ใช้น้ำมันอาการหนัก การผลิต-ยอดขายในประเทศ-ส่งออกยังร่วงต่อ

รถยนต์ใช้น้ำมันอาการหนัก การผลิต-ยอดขายในประเทศ-ส่งออกยังร่วงต่อ

วันอังคาร ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 07.15 น.

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การผลิตรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนกรกฎาคม 2568 รวม 110,616 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2568 ที่ 15.06% และลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ 11.39% ลดลงค่อนข้างมากโดยเฉพาะรถยนต์นั่งที่ใช้น้ำมัน ซึ่งลดลง 31.80% จากการเลิกผลิตรถยนต์นั่งเพื่อส่งออกบางรุ่น รถกระบะยังคงผลิตลดลงทั้งผลิตขายในประเทศที่ลดลง 6.54% และผลิตส่งออกที่ลดลง 8.61% 

ทั้งนี้จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 835,331 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2567 ที่ 5.73% การผลิตเพื่อส่งออกเดือนกรกฎาคม 2568 ผลิตได้ 74,100 คัน เท่ากับ 66.99% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ 15.35% ส่วนเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2568 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 549,113 คัน เท่ากับ 65.74% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ระยะเวลาเดียวกัน 9.05% ขณะที่การผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเดือนกรกฎาคม 2568 ผลิตได้ 36,516 คัน เท่ากับ 33.01% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ 2.08% และเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2568 ผลิตได้ 286,218 คัน เท่ากับ 34.26% ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2567 ที่ 1.37%


สำหรับยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนกรกฎาคม 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 49,102 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2568 ที่ 1.95% แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ 5.84% เพิ่มขึ้นติดต่อกัน 4 เดือน เพราะยอดขายรถยนต์นั่งโดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่มีราคาเข้าถึงได้มากกว่ารถยนต์ใช้น้ำมัน รถกระบะยังคงขายลดลงต่อเนื่องมากว่า 30 เดือนเหลือแค่ 11,022 คัน ลดลง 16.3% (ปี 2562 ก่อนโควิด-19 รถกระบะขายในประเทศเฉลี่ยเดือนละ 35,973 คัน เท่ากับ 35.70% ของยอดขายรวม 1,007,552 คัน)

อย่างไรก็ตามยอดขายที่ลดลงเป็นเพราะความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถกระบะ จากหนี้ครัวเรือนที่ยังสูง และเศรษฐกิจในประเทศที่ยังขยายตัวในอัตราต่ำ 2.8% ในไตรมาส 2/2568 การลงทุนของเอกชนเติบโตแค่ 4.1% สาขาอุตสาหกรรมเติบโตแค่ 1.7% นักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนลดลงมาก ทำให้สาขาพักแรมและอาหารเติบโตเพียง 2.1% คงต้องติดตามการลงทุนของเอกชน การท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนต่อไป คาดหวังงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 จะช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตมากขึ้นจากปัจจุบัน

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือนกรกฎาคม 2568 ส่งออกได้ 72,439 คัน ลดลงจากเดือนที่แล้ว 17.76% และลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ 13.27% จากการเลิกผลิตรถยนต์นั่งใช้น้ำมันบางรุ่น เพราะจะเปลี่ยนรุ่นรถ รถยนต์นั่งและรถกระบะไฟฟ้ายังส่งออกอีกในเดือนนี้ 167 คัน โดยปี 2568 นี้จึงเป็นปีประวัติศาสตร์ของไทยที่ส่งออกรถยนต์นั่งไฟฟ้าและรถกระบะไฟฟ้าดังที่รัฐบาลและเอกชนร่วมมือกันให้ไทยเป็นฐานผลิตยานยนต์ใช้น้ำมันและยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อส่งออกไปยังประเทศคู่ค้า ที่มีนโยบายและความพร้อมของโครงสร้างแตกต่างกัน โดยมูลค่าการส่งออกรถยนต์ 361,224.05 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2567 ที่ 13.97% รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2568 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 513,390.07 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2567 ที่ 9.48% 

อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน และการเข้มงวดในเรื่องการติดตั้งอุปกรณ์ช่วยขับเพื่อความปลอดภัยในรถยนต์ และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพของรถยนต์ของประเทศคู่ค้า ทำให้การส่งออกรถยนต์เดือนนี้ลดลงในตลาดเอเชีย ออสเตรเลียและโอเชียเนีย และอเมริกาเหนือ เครื่องยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถยนต์ยังคงส่งออกเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงหวังว่ารัฐบาลจะเร่งใช้งบประมาณปี 2569 เพื่อนกระตุ้นเศรษฐกิจและกำลังซื้อให้ฟื้นขึ้นมาได้

สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนกรกฎาคม 2568 จดทะเบียนใหม่ 12,124 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว 45.51% เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2568 มี BEV จดทะเบียนใหม่สะสม 81,179 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-กรกฎาคมปีที่แล้ว 35.08% ยอดจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 รวมทั้งสิ้น 307,428 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 60.61% ส่วนยานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 84,128 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-กรกฎาคมปีที่แล้ว 0.40% โดยเดือนกรกฎาคม 2568 มี PHEV จดทะเบียนใหม่ 1,286 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว 55.69% เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2568 มี PHEV จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 12,632 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-กรกฎาคมปีที่แล้ว 120.76% 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top