SJWDผนึกกำลังพันธมิตร ตั้งบริษัทร่วมทุนลุยตลาดขนส่งข้ามแดน

SJWDผนึกกำลังพันธมิตร ตั้งบริษัทร่วมทุนลุยตลาดขนส่งข้ามแดน

วันพุธ ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

นายบรรณ เกษมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ หรือ SJWD  เปิดเผยว่าบริษัทฯพร้อมด้วยพาร์ทเนอร์อีก 2 ราย ได้แก่  บริษัท รุ่ยหยุน (เอชเค) อินเตอร์เนชั่นแนล ซัพพลายเชน  (Ruiyun) จากประเทศจีน และบริษัท โกลเด้น ไลน์ เซอร์วิสเซส  (Golden Line) ในเครือบริษัท สปีด อินเตอร์ ทรานส์สปอร์ต  ได้ร่วมลงนามในสัญญาจัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ “บริษัท รุ่ยหยุน อินเตอร์เนชั่นแนล ซัพพลายเชน (ประเทศไทย)” ทุนจดทะเบียน 140 ล้านบาท

โดย SJWD, RUIYUN และ GOLDEN  LINEถือหุ้นผ่านบริษัทย่อยในสัดส่วน 40% 49% และ 11% ตามลำดับ เพื่อรุกธุรกิจให้บริการขนส่งข้ามแดนแก่สินค้าควบคุมอุณหภูมิและสินค้าทั่วไปเส้นทางไทย – จีน - อาเซียน อาทิ ผลไม้, ผักสด, สินค้าอิเล็กทรอนิกส์, ชิ้นส่วนยานยนต์ ฯลฯ แก่ลูกค้าจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ต้องการส่งออกสินค้าระหว่างไทย-จีน และภูมิภาคอาเซียน โดยในช่วงที่ผ่านมาได้นำร่องขนส่งทุเรียนจากไทยไปจีน และขนส่งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จากจีนมายังประเทศไทยแล้ว


การจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเป็นการผสานจุดแข็งในธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็น แพลตฟอร์มโลจิสติกส์ การขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิ และเครือข่ายการกระจายสินค้าที่ครอบคลุมในไทย จีน และอาเซียนเข้าด้วยกัน โดย SJWD มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็น การขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิ และขนส่งสินค้าข้ามแดน ปัจจุบันมีคลังสินค้าห้องเย็น 9 แห่งใน 6 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสาคร, ฉะเชิงเทรา, สมุทรปราการ, สระบุรี, เชียงใหม่ และปทุมธานี  รองรับสินค้าได้กว่า 100,000 ตัน หรือกว่า 240,000 พาเลท รวมถึงอยู่ระหว่างแผนการลงทุนสร้างคลังสินค้าห้องเย็นแห่งใหม่ในสุราษฎร์ธานีและขอนแก่น สามารถให้บริการขนส่งและจัดเก็บสินค้าควบคุมอุณหภูมิครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศไทย

 การให้บริการขนส่งข้ามแดนแก่สินค้าควบคุมอุณหภูมิและสินค้าทั่วไปในเส้นทางไทย - จีน - อาเซียน เป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงและกำลังเติบโต โดยเฉพาะการส่งออกทุเรียนจากไทยไปจีนที่เติบโตต่อเนื่องโดยในปี 2561-2567 มูลค่าส่งออกทุเรียนไทยไปยังจีนเพิ่มจาก 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าปี 2568 จะเติบโตกว่า 8% เนื่องจากเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวจีน

จึงวางเป้าหมายว่าบริษัทร่วมทุนที่จัดตั้งใหม่จะมีรายได้กว่า 120 ล้านบาทในช่วง 5 เดือนหลังของปี 2568 และปี 2569 – 2572 คาดว่าจะมีรายได้กว่า 560 ล้านบาท กว่า  670 ล้านบาท กว่า 750ล้านบาท และกว่า 830 ล้านบาทตามลำดับ เติบโตเฉลี่ยปีละ 13.8% โดยวางแผนขยายบริการไปยังผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในจีน ที่เข้ามาดำเนินธุรกิจหรือส่งออกสินค้ามายังประเทศไทย ต่อยอดจากเครือข่ายฐานลูกค้าของ Ruiyun ในจีน จะส่งผลดีต่อการเพิ่มอัตราการเช่าพื้นที่คลังสินค้าห้องเย็น และขยายเน็ตเวิร์ตด้านโลจิสติกส์ในจีน อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มโอกาสในการผลักดันให้ผลไม้ไทยให้เข้าถึงผู้บริโภคในประเทศจีนได้ดีมากยิ่งขึ้น รวมถึงมีแผนขยายบริการขนส่งข้ามแดนจากจีนไปยังประเทศอื่น ๆ ในอาเซียนอีกด้วย

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top