8เดือน ดัชนีหุ้นไทยลด11.7% มูลค่าซื้อขาย4.3หมื่นล้านบาทต่อวัน

8เดือน ดัชนีหุ้นไทยลด11.7% มูลค่าซื้อขาย4.3หมื่นล้านบาทต่อวัน

วันศุกร์ ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2568, 07.43 น.

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมกำไรสุทธิไตรมาส 2/2568 ของบริษัทจดทะเบียนเติบโตต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่มีผลการดำเนินงานดีกว่าคาดปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ความสำเร็จของงาน “Thailand Focus 2025” และผลตอบแทนหุ้น IPO ที่เริ่มฟื้นตัวในเดือนที่ผ่านมา สะท้อนถึงความน่าสนใจของตลาดหุ้นไทย  ขณะที่ภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทยเดือนสิงหาคม 2568  SET Index ปิดที่ 1,236.61 จุด ปรับลดลง 0.5% จากสิ้นเดือนก่อนหน้า ถือเป็นการปรับลงเล็กน้อยหลังปรับเพิ่มขึ้นมากในเดือนก่อนหน้า โดยตั้งแต่ต้นปีถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2568 SET Index ปรับลดลง 11.7% จากสิ้นปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้เดือนสิงหาคม กลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2567 ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มการเงิน กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม และกลุ่มทรัพยากร เดือนสิงหาคมมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยรายวันรวมของ SET และ mai อยู่ที่ 50,672 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตามในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2568 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยรายวันรวมฯ อยู่ที่ 43,011 ล้านบาท ลดลง 3.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยผู้ลงทุนต่างประเทศยังคงมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงสุดที่ระดับ 51.47% ของมูลค่าการซื้อขายรวม แต่มีสถานะเป็นผู้ขายสุทธิ 21,816 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกลับมาขายสุทธิหลังจากซื้อสุทธิในเดือนก่อนหน้า และมีบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ซื้อขายใน mai 1 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ.โรงพยาบาลมุกดาหารอินเตอร์เนชั่นแนล (HANN)


ส่วน Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นสิงหาคม อยู่ที่ระดับ 13.9 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 13.5 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 14.1 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 15.4 เท่า และอัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นสิงหาคม อยู่ที่ระดับ 3.99% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 3.08% และ ภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) เดือนสิงหาคม 2568  มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 369,772 สัญญา เพิ่มขึ้น 4.1% จากเดือนก่อน ที่สำคัญจากการเพิ่มขึ้นของ Single Stock Futures และ SET50 Index Options ทำให้ในปี 2568 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 419,267 สัญญา ลดลง 13.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่สำคัญจากการลดลงของ Single Stock Futures และ Gold Online Futures

นายศรพล กล่าวอีกว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงไทยได้รับแรงหนุนจากสัญญาณการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธาน Fed ส่งสัญญาณถึงโอกาสการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน 2568 ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนกรกฎาคมที่ขยายตัวต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ตามเงินทุนต่างชาติไหลออกจากทั้งตลาดพันธบัตรและหุ้นไทย ท่ามกลางส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลของไทยและสหรัฐที่กว้างขึ้น หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เป็น 1.50% ต่อปี ส่งผลให้ดัชนี SET Index ในเดือนสิงหาคม 2568 ปรับตัวลงเล็กน้อย 0.5% จากสิ้นเดือนกรกฎาคม

 “สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยเป็น 2% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.8% ตามการเร่งส่งออกสินค้าก่อนที่ภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ของสหรัฐฯ มีผลบังคับใช้ แม้ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 2/2568 ขยายตัว 2.8% ชะลอลงจาก 3.2% ในไตรมาส 1/2568 ปัจจัยหลักจากการชะลอตัวของการผลิตนอกภาคเกษตร โดยเฉพาะกลุ่มบริการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว”นายศรพล กล่าว

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top