ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) สรุปมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-4 ธันวาคม 2568 แยกเป็นสถาบันในประเทศขายสุทธิ 30,032.54 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์(โบรกเกอร์)ขายสุทธิ 12,175.61 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 109,480.88 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศ(รายย่อย)ซื้อสุทธิ 151,689.03 ล้านบาท

บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปภาพรวมตลาดหุ้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นท่ามกลางแรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ SET Index ดีดตัวขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ ตามแรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติและบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ หลังสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้เริ่มคลี่คลาย และรัฐบาลเร่งออกมาตรการช่วยเหลือ ส่งผลให้มีแรงซื้อหุ้นบิ๊กแคป นำโดยกลุ่มแบงก์ เทคโนโลยี และพลังงาน ซึ่งได้รับอานิสงส์เพิ่มเติมจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้น หลังโอเปกพลัสมีมติไม่เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในไตรมาส 1/2569 นอกจากนี้ตลาดหุ้นไทยยังมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของทั้งสหรัฐฯและไทยในรอบการประชุมเดือนธันวาคมนี้ 

อย่างไรก็ดีดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ เนื่องจากไร้ปัจจัยใหม่ๆเข้ามากระตุ้นตลาด ขณะที่นักลงทุนกลับมารอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ประกอบกับช่วงปลายสัปดาห์จะเข้าสู่ช่วงหยุดยาวของตลาดในประเทศ

วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม 2568 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,273.77 จุด เพิ่มขึ้น 1.36% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 35,948.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.74% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 0.87% มาปิดที่ระดับ 216.19 จุด

สัปดาห์นี้ (8-12 ธันวาคม 2568) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,250 และ 1,230 จุด แนวต้าน1,285 และ 1,305 จุด ตามลำดับ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมเฟด (9-10 ธันวาคม) และทิศทางเงินทุนต่างชาติ