นายสุวิทย์ งามภูพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอก ดรัก จำกัด (Bangkok Drug) บริษัทประกอบกิจการจำหน่าย อาหารเสริม เวชสำอาง เครื่องสำอางและเวชภัณฑ์ยา ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์ “Plaivana “(ไพลวาน่า) เปิดเผยถึงภาพรวมการทำตลาดของผลิตภัณฑ์สมุนไพรบรรเทาปวดเมื่อยและแก้เคล็ดขัดยอก ชนิดครีม “ไพลวาน่า” ว่า ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวแคมเปญ “ไพลวาน่า x มาริโอ้” เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มคนทุกไลฟ์สไตล์ที่ใส่ใจสุขภาพ พร้อมชูศักยภาพการใช้สมุนไพรไทย เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ จากหนึ่งในตัวเลือก สู่ “แบรนด์ไพลวาน่าที่คนไทย ไว้วางใจเลือกใช้”
ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ไพลวาน่า ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น ผลิตภัณฑ์สมุนไพรขายทั่วไป เป็นยาครีมไพลที่มีส่วนผสมของน้ำมันไพล 14% ซึ่งปริมาณน้ำมันไพลตรงกับสูตรตำรับในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร พ.ศ. 2566 กลุ่ม 7 ยารักษากลุ่มอาการทางกล้ามเนื้อและกระดูก ข้อที่ 4 ยาไพล ผลิตยามาตรฐานตามหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตยาของประเทศไทยซึ่งได้กำหนดขึ้น โดยมีความสอดคล้องและทัดเทียมกับหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตและกระจายยา Pharmaceutical Inspection Co-operation Scheme Guide to Good Manufacturing Practice for Medicinal Products (PIC/S GMP) and Good Distribution Practice (PIC/S GDP) ได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ในประเภท ผลิตภัณฑ์สมุนไพร และส่งต่อไปให้โรงพยาบาลทั่วประเทศ ครอบคลุมโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย ไปจนถึงโรงพยาบาลชุมชน
นายสุวิทย์ กล่าวต่อว่า สมุนไพรไทยไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นการผสานระหว่างภูมิปัญญาดั้งเดิมกับมาตรฐานการผลิตในยุคปัจจุบัน การพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทยจึงเป็นทางเลือกสำคัญในการลดการพึ่งพายานำเข้าจากต่างประเทศ อีกทั้งยังส่งเสริมให้มีการใช้สมุนไพรไทยมากขึ้น เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศด้วย
โดยบริษัทได้เพิ่มการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ Plaivana ผ่านการดึงกลุ่มผู้ใช้จากโรงพยาบาลและร้านขายยา ควบคู่กับการขยายช่องทางจัดจำหน่ายผ่านตลาดค้าปลีกและออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางร้าน 7-Eleven กว่า 6,000 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งตอบโจทย์การซื้อที่สะดวก และยังได้ร่วมมือกับ Big C ส่งต่อสมุนไพรไทยสู่มือผู้บริโภคทั่วประเทศ รวมถึงการรุกตลาดออนไลน์ผ่าน บริษัท บีเคดี วีว่า ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบางกอก ดรัก บนแพลตฟอร์ม Shopee, Lazada และ TikTok Shop
นอกจากนี้ล่าสุด บริษัทเดินหน้าสู่แบรนด์ผลิตภัณฑ์สมุนไพรบรรเทาอาการปวดเมื่อยที่เข้าถึงได้ทั่วประเทศ ผ่านแคมเปญ “ไพลวาน่า x มาริโอ้” ด้วยการดึง “มาริโอ้ เมาเร่อ” มาในฐานะพรีเซ็นเตอร์ เนื่องจากมาริโอ้เป็นนักแสดงที่มีไลฟ์สไตล์แบบผสมผสาน ทั้งความมันส์และการดูแลตัวเอง ซึ่งเป็นวัฒนธรรมของคนสมัยนี้ที่ชอบความท้าทาย แต่ก็ใส่ใจการดูแลสุขภาพ
“เราตั้งเป้าให้ไพลวาน่าพลิกจากตัวเลือก ไปสู่แบรนด์ไพลวาน่าที่คนไทยไว้วางใจเลือกใช้ ทั้งในโรงพยาบาลและร้านขายยา เป้าหมายถัดไปของเราคือ การทำให้ไพลวาน่าได้รับความไว้วางใจจากทุกครัวเรือน”นายสุวิทย์ กล่าว
นอกจากนี้บริษัทยังได้ร่วมมือกับพันธมิตร Dentsu X Palette (Thailand) (เดนท์สุ เอ็กซ์ พาเลท ประเทศไทย) ผู้เชี่ยวชาญในการวางกลยุทธ์สื่อที่แม่นยำ ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและตรงจุด เน้นผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง ซึ่งนำมาสู่การพิจารณาซื้อ และสร้างความภักดีต่อแบรนด์
1.สร้างความแตกต่างด้วยกลยุทธ์การใช้สื่อที่ชาญฉลาด วิเคราะห์โฆษณาของคู่แข่งเพื่อค้นหาโอกาสทางการตลาด และทำให้ผลิตภัณฑ์แตกต่างและโดดเด่น ใช้ช่องทางที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อสร้างการรับรู้และการจดจำแบรนด์ พร้อมเชื่อมโยงเส้นทางลูกค้าตั้งแต่การรับรู้ไปจนถึงการซื้ออย่างไร้รอยต่อ
2.การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลผ่านเครื่องมือเฉพาะของ Dentsu CCS (Consumer Connection System) และ Dentsu Marketing Cloud เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคเชิงลึก (ไลฟ์สไตล์ ความสนใจ พฤติกรรมการใช้สื่อ) และปรับกลยุทธ์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด กลยุทธ์ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับคนรักกีฬา พนักงานออฟฟิศ และผู้สูงอายุ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างตรงจุด
3.ปรับงบประมาณด้วย AI เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด จัดสรรงบประมาณตามข้อมูลการมีส่วนร่วมและอัตราการเปลี่ยนเป็นลูกค้า ขยายฐานลูกค้าผ่านกลุ่มเป้าหมายที่มีความคล้ายคลึงกัน (Lookalike Audiences) และรีทาร์เก็ตกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มสนใจ
อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากสื่อหลัก บริษัทได้จับมือกับพันธมิตรอย่าง บริษัท ฟ้าใส มีเดีย เฮาส์ ซึ่งเป็นทีมสื่อออนไลน์ รับช่วงต่อ เพิ่มความไว้วางใจให้ผู้บริโภค ให้เกิดการพิจารณาสินค้า (consideration) กลยุทธ์ทางการตลาดที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์และการเข้าถึงผู้บริโภคในรูปแบบที่ไม่คาดคิด โดยเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่างบประมาณมหาศาล เป้าหมายคือสร้างความประหลาดใจ ดึงดูดความสนใจ และกระตุ้นให้เกิดการบอกต่อแบบปากต่อปาก การผูกเรื่องราวของแบรนด์ ตั้งแต่การคัดสรรอินฟลูเอนเซอร์แบ่งเป็นกลุ่มๆ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน โดยไม่เน้นเพียงยอดติดตามเป็นหลัก แต่เน้นเอนเกจที่เป็นยอดจริง เพื่อให้คอนเทนต์เข้าถึงเป้าหมายอย่างแท้จริง
-033
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี