** ท่ามกลางการแข่งขันในตลาดสกินแคร์ที่ร้อนแรง และเต็มไปด้วยผู้เล่นทั้งในและต่างประเทศ บริษัท สกิน ลาบอราทอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ SKIN ภายใต้การนำของ “ชาญวิทย์ เขียวนาวาวงศ์ษา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในแบรนด์สกินแคร์ของไทยที่น่าจับตามอง ภายใต้แบรนด์หลัก คือ Skinsista (สกินซิสต้า) และแบรนด์เวชสำอางน้องใหม่ Dermie (เดอร์มี่) ด้วยความเข้าใจในความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่อย่างลึกซึ้ง และการสร้างรากฐานธุรกิจที่มั่นคงภายใต้คติพจน์การทำงานที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง คือ “ทำทุกวันให้มีความหมาย”
คุณชาญวิทย์ จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาขาบัญชี และปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ (MBA) จาก มหาวิทยาลัยซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะสั่งสมประสบการณ์บริหารในหลากหลายองค์กรชั้นนำระดับโลก อาทิ Google Thailand, Uniqlo, Huawei, Samsung รวมถึง Unilever จนกระทั่งก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารสูงสุดของ SKIN ในปี 2563 จนถึงปัจจุบัน การทำงานในบริษัทชั้นนำทำให้เขาได้เรียนรู้หลักการบริหารที่หลากหลาย นำมาสู่การปรับวิธีการบริหารให้เหมาะสมกับองค์กร ซึ่งกลายเป็นรากฐานสำคัญในการนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จ
ภายใต้การบริหารของคุณชาญวิทย์ SKIN ได้ยึด 3 กลยุทธ์หลัก คือ การเข้าใจลูกค้าให้ลึกกว่าคู่แข่ง โดยใช้ข้อมูลจริงจากลูกค้า รีวิว และการรับฟังเสียงจากโซเชียลมีเดีย เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่แค่ตอบโจทย์ผิว, การพัฒนาสินค้าที่ได้ผลจริง ไม่พูดเกินจริง ซึ่งทุกสูตรถูกพัฒนาโดยยึดจากผลลัพธ์ที่จับต้องได้ และแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ดีกว่าสินค้าที่มีอยู่ในตลาด เปรียบเสมือนเป็นพี่สาวที่พร้อมอยู่เคียงข้างผู้บริโภคในวันที่รู้สึกไม่มั่นใจในผิวของตัวเอง
“SKIN ไม่ได้หยุดอยู่แค่เพียงตลาดในประเทศ แต่ยังตั้งเป้าหมายขยายสู่ตลาดต่างประเทศในอนาคตอันใกล้ด้วยโดยเฉพาะในโซนเอเชีย ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานสากล รวมถึงแผนการสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับผู้จัดจำหน่ายในตลาดต่างประเทศ เพื่อผลักดันแบรนด์ไทยให้เป็นที่ยอมรับในเวทีโลก”คุณชาญวิทย์ กล่าว
นอกจากนี้อีกหนึ่งก้าวสำคัญของ SKIN คือการเตรียมความพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เพื่อระดมทุนสำหรับขยายศักยภาพธุรกิจ ทั้งด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) และการลงทุนด้านการตลาด เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคในอนาคต
ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญกว่า 12 ปี ในแวดวงตลาดสกินแคร์และเครื่องสำอาง คุณชาญวิทย์ได้หลอมรวมวิสัยทัศน์ ความเชี่ยวชาญ และความมุ่งมั่นเข้าด้วยกัน เพื่อขับเคลื่อน SKIN ให้เติบโตบนรากฐานที่มั่นคง เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจสกินแคร์และเวชสำอางของไทย พร้อมเป้าหมายในการผลักดันแบรนด์ไทยสู่เวทีนานาชาติที่ผู้บริโภคให้การยอมรับและไว้วางใจ
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมากระแส T-Beauty (Thai Beauty) ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งจากผู้บริโภคในประเทศและเริ่มกระจายความนิยมสู่ในระดับภูมิภาค เนื่องจากแบรนด์ไทยได้แข่งขันกันพัฒนาคุณภาพ ทั้งในด้านนวัตกรรม คุณภาพของผลิตภัณฑ์ และราคาที่สามารถจับต้องได้ ทำให้สามารถลงสนามแข่งขันกับแบรนด์เจ้าตลาดของเมืองนอกได้ ซึ่งตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางในไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยสัดส่วนของสกินแคร์ยังเป็นหมวดที่ใหญ่สุด และตลาดโดยรวมยังคาดการณ์การเติบโตได้อีกระยะยาว ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อทุกแบรนด์ไทยในด้านความคล่องตัวของการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่ออิงกระแสของ Fast Beauty ที่มาควบคู่กับกระแส T-Beauty
จากความเข้าใจในความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ และกระแสความนิยมเป็นอย่างดี จึงเป็นจุดสำคัญของ SKIN ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ ที่สอดคล้องกับความต้องการ และกระแสความนิยมของผู้บริโภค ซึ่งการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านนวัตกรรม และประสิทธิภาพจากการใช้งานจริง โดยสอดคล้องกับกระแส T-Beauty ที่ผู้บริโภคภูมิภาคมองหาแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์และคุณค่า ช่วยให้ SKIN สามารถแข่งขันในตลาดในประเทศได้เป็นอย่างดี
ด้วยวิสัยทัศน์ที่เฉียบคมและประสบการณ์อันกว้างขวางของคุณชาญวิทย์ ทำให้แบรนด์ภายใต้ SKIN ทั้ง Skinsista และ Dermie ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในแบรนด์ไทยที่น่าจับตามองในอุตสาหกรรมสกินแคร์และเวชสำอาง ไม่เพียงแต่การยึดกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการเข้าใจผู้บริโภค และการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์จริง แต่ยังรวมถึงการสร้างความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างธุรกิจ และการเตรียมเข้าสู่ตลาดทุนเพื่อขยายศักยภาพในอนาคต ภายใต้กระแส T-Beauty และ Fast Beauty ที่กำลังมาแรง SKIN จึงไม่ใช่เพียงผู้เล่นในตลาดความงามของไทย แต่กำลังวางรากฐานเพื่อผลักดันแบรนด์ไทยสู่เวทีสากล และเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคให้ความเชื่อมั่นและไว้วางใจในระยะยาว**
**อนันตเดช พงษ์พันธุ์**
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี