ll บริษัท ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TGE หรือในภาพจำเดิม “กลุ่มบริษัทท่าฉาง” ดำเนินธุรกิจโรงสกัดน้ำมันปาล์ม ที่มีวัสดุธรรมชาติเหลือทิ้งจากการสกัด เช่น กะลาปาล์ม ทะลายปาล์ม ซึ่งเดิมต้องนำไปย่อยสลายโดยไม่เกิดประโยชน์ใดๆ สิ่งนี้ได้จุดประกายแนวคิดการนำเศษเหลือทิ้งมาต่อยอดด้วยการเผาให้กลายเป็นพลังงาน นำพาให้เกิดธุรกิจใหม่ คือ “ธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวล”และจากนโยบายก้าวใหม่ที่ไกลกว่าเดิม TGE ได้ขยายเข้าสู่ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดอื่นๆ ได้แก่ โรงไฟฟ้าขยะชุมชน และการรับบริหารจัดการโรงไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ โดยปัจจุบันธุรกิจโรงไฟฟ้าของ TGE มีกำลังผลิตติดตั้งรวมถึง 67 เมกะวัตต์
คุณสืบตระกูล บินเทพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บ.ท่าฉางฯ บอกกับ “มุมมองนักบริหาร” ว่า แนวคิดการดำเนินธุรกิจก้าวต่อไปของ TGE กุญแจสำคัญ คือ การเติบโตไปพร้อมกับชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยมีจุดแข็งของธุรกิจอยู่ที่ความถนัดในการนำของเสียและของเหลือใช้ที่เป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมมาทำให้เกิดประโยชน์ด้วยการเปลี่ยนให้เป็นพลังงานไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสม และมีการบริหารของเสียภายในโรงไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ
“ก้าวต่อไปของ TGE คือการรุกเข้าไปสู่พลังงานสะอาดให้มากยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายกำลังการผลิตติดตั้งรวม 200 เมกะวัตต์ภายในปี 2575 ประเด็นสำคัญ คือ บริษัทฯ ต้องการให้จำนวนเมกะวัตต์ที่เหลือมาจากพลังงานสะอาดทั้งหมด เพื่อมุ่งสู่การเป็น Renewable Energy อันดับต้นๆ ของประเทศไทย พร้อมกับผลักดันการเติบโตของบริษัทควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมและการอยู่ร่วมกับชุมชนอย่างยั่งยืนให้ได้มากที่สุด”
สำหรับแนวคิดในการบริหารงานองค์กรของ “สืบตระกูล” นั้น มองว่าการบริหารจะต้องเริ่มจากการตั้งเป้าหมายหลักเอาไว้อย่างชัดเจน จากนั้นจึงเป็นขั้นตอนของการวางกลยุทธ์เพื่อที่จะพุ่งทะยานไปยังเป้านั้นได้ โดยวิธีการที่จะเดินไปยังเป้าหมายดังกล่าวได้จะต้องมีการวางแผนอย่างเป็นขั้นตอนซึ่งทุกอย่างจะต้องจับต้องและวัดผลได้ นำเอาข้อเสียมาปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้ได้วิธีการที่ดีและมีประสิทธิภาพที่สุด ซึ่งในแต่ละขั้นตอนเหล่านี้จะขาด “บุคลากร” ไปไม่ได้เลย
ทั้งนี้ หัวใจหลักความแข็งแกร่งของ TGE นั้นคือ “บุคลากร” และ “Team Work” ทั้งสองสิ่งคือสิ่งสำคัญที่สุด เพราะการทำธุรกิจนั้นไม่สามารถสำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียว แม้ในปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีที่สามารถมาทดแทนมนุษย์ได้อย่างมากมาย ทว่าผู้ที่ควบคุมเทคโนโลยีเหล่านั้นก็ย่อมต้องเป็นมนุษย์
“หาก TGE เปรียบเสมือนเรือลำใหญ่ ทุกคนบนเรือลำนี้ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาดก็คือ ทีมเดียวกัน คือ ทีม TGE หากช่วยเหลือคนละไม้คนละมือสร้างสิ่งแวดล้อมในการทำงานที่ดี เสริมสร้างการทำงานเป็นทีมอย่างเข้มแข็ง มีการวางแผนสื่อสารแผนงานและกระบวนการต่างๆ ไปยังทุกระดับให้สามารถเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน ช่วยเสริมจุดแข็ง และพัฒนาแก้ไขจุดอ่อน ประเมินความเสี่ยง และมุ่งมั่นในการเดินไปข้างหน้า ย่อมทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดกับองค์กร วันนี้ทุกคนลงเรือลำเดียวกันโดยมีเป้าหมายเดียวกันเพื่อจะสร้าง TGE ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ให้เติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน”
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/67 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม 258.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 234.9 ล้านบาทโดยมีกำไรขั้นต้น 90.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรขั้นต้น 85.1 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 64.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 63 ล้านบาท ปัจจัยที่สนับสนุนให้มีรายได้เพิ่มขึ้นมาจากการรับบริหารจัดการโรงไฟฟ้าไบโอแก๊ส, การปรับตัวเพิ่มขึ้นของค่า FiT และต้นทุนทางการเงินที่ลดลงจากการจ่ายชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน
TGE ได้เริ่มบริหารจัดการโรงไฟฟ้าไบโอแก๊สตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2567 กำลังผลิตติดตั้งรวม 7 เมกะวัตต์ โดยมีระยะเวลาสัญญา 5 ปีสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับกลุ่มบริษัทฯ ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ และ TGE คาดการณ์ว่าจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานโรงไฟฟ้าไบโอแก๊สดังกล่าวได้ตลอดระยะเวลาสัญญา ซึ่งจะทำให้เกิดผลตอบแทนที่สูงขึ้น
“ในช่วงไตรมาส 1/67 บริษัทฯได้เริ่มดำเนินการเตรียมพื้นที่สำหรับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะชุมชน รวมถึงการจัดเตรียมเอกสารในการขอใบอนุญาตก่อสร้าง ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถก่อสร้างเสร็จ และเริ่มรับรู้รายได้ปลายปี 68 และไตรมาส 1/69 นอกจากนี้ยังได้ศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน เพื่อให้เป็นไปตามกลยุทธ์ของกลุ่มบริษัทฯ ในการเป็นผู้นำด้านโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่เป็นมิตรต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม”
ปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนที่ได้รับคัดเลือกจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เรียบร้อยแล้ว จำนวน 6 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 49.8 เมกะวัตต์ โดยมีความคืบหน้าในการก่อสร้างเฟสที่ 1 จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนในพื้นที่ 1. จังหวัดสระแก้ว 2. จังหวัดชุมพร 3. จังหวัดราชบุรี และ 4. จังหวัดชัยนาท กำหนดแล้วเสร็จและคาดพร้อมจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ปลายปี’68 ขณะที่โครงการในเฟส 2 จำนวนทั้งสิ้น 2 โครงการได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนในพื้นที่ 1. จังหวัดสมุทรสาคร และ 2. จังหวัดอุบลราชธานี มีแผนเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปี’68 กำหนดแล้วเสร็จพร้อม COD ปลายปี’69 และต้นปี’70
l อนันตเดช พงษ์พันธุ์ l
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี