นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เปิดเผยว่า การประชุมคณกรรมการ (บอร์ด) กสทช. เมื่อวันที่ 23-24 กันยายน 2568 ที่ผ่านโดยที่ประชุมมีระเบียบวาระเข้าสู่ที่ประชุม กสทช. จำนวนทั้งสิ้น 60 วาระ ผ่านการพิจารณาทั้งสิ้น 31 วาระ ได้แก่ วาระที่เกี่ยวกับการออกร่างประกาศ กสทช. การอนุญาตประกอบกิจการ การพิจารณาอุทธรณ์การอนุญาตให้ใช้สิทธิเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม การขยายระยะเวลาการให้ใช้งานคลื่นความถี่เพื่อทดลองทดสอบ การกำกับดูแลผู้รับใบอนุญาต รวมทั้งข้อร้องเรียน
ทั้งนี้ทีประชุมมีมติเห็นชอบอนุมัติกรอบวงเงินการจัดสรรเงินและแผนการดำเนินงานกองทุนฯ ประจำปี 2569 รวม 1,500 ล้านบาท สำหรับการจัดสรรให้ทุนประเภทต่างๆ ของกองทุนวิจัยและพัฒนาในปี พ.ศ. 2569 โดยแบ่งกองทุนเป็น 4 ประเภท ดังนี้ 1.) ทุนประเภทที่ 1 (Open Grant) กำหนดกรอบวงเงิน 300 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรมใหม่ 2.) ทุนประเภทที่ 2 (Strategic Grant) กำหนดกรอบวงเงิน 200 ล้านบาท ได้แก่ ทุนมุ่งเน้นการบรรลุความสำเร็จตามนโยบายคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ จำนวน 100 ล้านบาท และทุนในโครงการที่มีลักษณะเป็นการต่อเนื่องกับโครงการที่เคยได้รับการสนับสนุน จำนวน 100 ล้านบาท 3.) ทุนประเภทที่ 3 (ทุนตามนโยบาย กสทช.) (Flow Chart) กำหนดกรอบวงเงินร้อยละ 10 ของรายได้สำนักงาน กสทช. เพื่อดำเนินโครงการตามนโยบายที่ กสทช. กำหนด 4.) ทุนประเภทที่ 4 (กองทุนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์) กำหนดกรอบวงเงิน 500 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ตามมาตรา 52 (5) แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ขณะเดียวกันที่ประชุมยังได้มีมติ พิจารณาการอนุญาตให้ กองทัพบกดำเนินการทดสอบระบบแจ้งเตือนภัยพิบัติหรือเหตุฉุกเฉิน (Emergency Warning System) ผ่านสถานีโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ที่มีการใช้งานจริงของกองทัพบก เป็นรูปแบบการแจ้งเตือนภัยในรูปแบบข้อความขึ้นหน้าจอโทรทัศน์ที่ใช้โครงข่ายภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล (MUX) ของ ททบ. จำนวน 11 ช่อง ได้แก่ ช่อง TNN, เวิร์คพอยท์ ทีวี, True4U, Nation TV, GMM25, Mono 29, 7 HD, ONE, AMARIN TV HD, PPTV, และ ช่อง 5
อย่างไรก็ตาม กสทช. ได้พิจารณาอนุญาตให้ ททบ. ทดสอบระบบ EWS ในวันที่ 13 พ.ย. 2568 เวลา 00.00 – 01.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่จะส่งผลกระทบต่อครัวเรือนไม่มากใน 2 พื้นที่ภาคเหนือและภาคใต้ คือ (1) ภาคเหนือ สถานีบ้านนาไร่เดียว ครอบคลุม 4 อำเภอ จ.พะเยา ได้แก่ อ.เมืองพะเยา อ.ดอกคำใต้ อ.ภูกามยาว อ.แม่ใจ และบางส่วน 2 อำเภอ จ.ลำปาง ได้แก่ อ.งาว และอ.แม่เมาะ และ (2) ภาคใต้ สถานีหลังสวน ครอบคลุม 3 อำเภอ จ.ชุมพร ได้แก่ อ.หลังสวน อ.ละแม อ.ทุ่งตะโก และบางส่วน 1 อำเภอ จ.สุราษฎร์ธานี อ.ท่าชนะ โดยภายหลังจากการทดสอบ ผู้ประกอบการสถานีโทรทัศน์จะดำเนินการรายงานผลต่อ กสทช. ภายใน 60 วัน ครอบคลุมทั้งด้านเทคนิค ปัญหา และข้อเสนอเพื่อพัฒนาระบบต่อไป
นอกจากนี้ยังมีวาระเรื่องร่าง ประกาศ กสทช. เรื่อง เครื่องวิทยุคมนาคมและสถานีวิทยุคมนาคมที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องได้รับใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 (ฉบับที่ 3) โดยที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้กำหนดให้อุปกรณ์ SIM BOX และ Gateway ผ่าน VPN ต้องได้รับอนุญาตจาก กสทช. ก่อนการนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือให้บริการโทรคมนาคม เพื่อให้การใช้งานอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายและป้องกันไม่ให้เป็นช่องทางของการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นการเพิ่มเติมมาตรการสำคัญในการกำกับดูแลอุปกรณ์ SIM BOX หรือ Gateway ผ่าน VPN เพื่อป้องกันการนำไปใช้ที่ผิดวัตถุประสงค์ โดยเฉพาะการหลอกลวงประชาชนหรืออาชญากรรมไซเบอร์ เช่น การปลอมแปลงเลขหมายโทรศัพท์ (Caller ID Spoofing) ซึ่งสร้างความเสียหายต่อประชาชน ผู้ให้บริการโทรคมนาคม และระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทย และพร้อมกันนี้ สำนักงาน กสทช. ได้พิจารณาให้มีช่องทางออนไลน์สำหรับการขอใบอนุญาต ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มความรวดเร็วให้แก่ผู้ดำเนินการขออนุญาต
ขณะเดียวกันยังได้พิจารณา วาระเรื่อง การปรับปรุง ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการอนุญาตให้จัดตั้งหน่วยตรวจสอบเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์ โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบการกำหนดคุณสมบัติและบุคลากรของหน่วยตรวจสอบ ซึ่งระบุว่าผู้ตรวจสอบและหัวหน้าผู้ตรวจสอบจะต้องผ่านการอบรมตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025 Lead Assessor พร้อมทั้งเน้นให้หน่วยตรวจสอบมีบุคลากรที่มีประสบการณ์ตรงในสาขาโทรคมนาคมและอุปกรณ์ เพื่อพัฒนามาตรฐานการตรวจสอบให้สอดคล้องกับบริบทปัจจุบัน และรองรับการพัฒนาทางเทคโนโลยีโทรคมนาคมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสำนักงาน กสทช. จะเป็นผู้ตรวจสอบและดำเนินการออกใบอนุญาต และต่อใบอนุญาตหากหน่วยตรวจสอบผ่านการประเมิน
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบให้มีการกำกับดูแลและติดตามหน่วยตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง จัดให้มีการติดตาม (Surveillance) อย่างเป็นระยะ เพื่อให้มั่นใจว่าหน่วยตรวจสอบยังคงดำเนินการตามมาตรฐานที่กำหนด และหากตรวจพบการละเมิดหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในประกาศ ก็จะสามารถดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตได้ในทันที
โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบ ร่างประกาศ กสทช. เรื่องการักษาเลขหมายของผู้ใช้บริการโทรศัทพ์เคลื่อนที่แบบชำระค่าบริการล่วงหน้า ในการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ กรณีที่วันใช้งานครบกำหนดแต่ยังมีเงินคงเหลือในระบบ ให้ผู้รับใบอนุญาตหักค่ารักษาเลขหมายจากเงินคงเหลือในระบบ ในอัตราไม่เกินรอบละ 3 บาท โดยให้ผู้รับใบอนุญาตหักค่ารักษาเลขหมายเพื่อขยายวันใช้งานต่อเนื่องกัน 6 รอบ รอบละ 30 วัน ก่อนจะดำเนินการเพื่อเลิกสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ เว้นแต่เงินคงเหลือในระบบเหลือน้อยกว่าจำนวนที่ผู้รับใบอนุญาตจะสามารถหักเป็นค่ารักษาเลขหมายได้ในรอบถัดไป เพื่อให้ผู้ใช้บริการยังสามารถใช้เลขหมายได้ต่อไป ในขณะเดียวกันยังเป็นบริหารจัดการทรัพยากรเลขหมายโทรคมนาคมอย่างมีประสิทธิภาพ
- 030
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี