นายพรยศ กลั่นกรอง อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม(กรอ.) เปิดเผยว่า กรมโรงงานฯ ได้รับมอบหมายจากกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนการส่งเสริมอุตสาหกรรมให้เข้าสู่อุตสาหกรรมสีเขียว ซึ่งกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้เสนอปรับปรุงหลักเกณฑ์อุตสาหกรรมสีเขียวให้สอดคล้องกับการดำเนินการตามนโยบายสากล ในเรื่องการลดผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสิ่งแวดล้อม โดยเพิ่มข้อกำหนดเรื่องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (Carbon Footprint for Organization; CFO) และการจัดทำแผนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของหลักเกณฑ์อุตสาหกรรมสีเขียว เพื่อส่งเสริมและยกระดับสถานประกอบการให้ดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรม สอดคล้องกับเป้าหมายการลดผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมของประเทศ
ทั้งนี้กรมโรงงานฯและ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ความเป็นกลางทางคาร์บอน และ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ด้วยอุตสาหกรรมสีเขียวและอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ โดยภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นการร่วมกันส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถประเมินปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และจัดทำรายงานคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรอย่างครอบคลุม ตามข้อกำหนดการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียวและอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร และการแลกเปลี่ยนความรู้ที่ช่วยสนับสนุนให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมในระดับสากลต่อไป
นายปณตสรรค์ สูจยานนท์ รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า กรมโรงงานฯได้เดินหน้านโยบาย สนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนผ่านการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์และการจำนองเครื่องจักร จากข้อมูลสำนักงานทะเบียนเครื่องจักรกลาง (สจก.) ในช่วงวันที่ 1 ตุลาคม 2567- 20 กันยายน 2568 มีผู้ประกอบการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักรแล้ว 904 ราย รวมกว่า 4,574 เครื่อง มูลค่า 1.17 แสนล้านบาท และทำให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุนรวมกว่า 2.25 แสนล้านบาท ผ่านกระบวนการการจำนองเครื่องจักร นอกจากนี้กรมโรงงานฯยังสนับสนุนการใช้ “พลังงานสะอาด” โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการนำเครื่องจักรผลิตไฟฟ้าจาก พลังงานแสงอาทิตย์ เช่น Solar Cell และ Solar Rooftop มาจดทะเบียนเพื่อใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในการขอสินเชื่อ ซึ่งได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านมา
กรมโรงงานฯยังดำเนิน โครงการเร่งรัดการจดทะเบียนเครื่องจักร SMEs เพื่อให้คำแนะนำการปรับปรุงและเปลี่ยนเครื่องจักรเดิม เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุนด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ซึ่งตั้งแต่ปี 2559 ถึงปัจจุบัน มีผู้ประกอบการเข้าร่วมแล้วกว่า 570 ราย ครอบคลุมการตรวจวิเคราะห์เครื่องจักร 14,050 เครื่อง สร้างมูลค่าผลตอบแทนกว่า 1 พันล้านบาทต่อปี
สำหรับปี 2569 กรมโรงงานฯ เตรียมพัฒนา “ศูนย์ข้อมูลเครื่องจักรแห่งชาติ” เพื่อ เชื่อมโยงแพลตฟอร์มดิจิทัลกลาง ให้บริการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์และการจำนองเครื่องจักรแบบครบวงจร ซึ่งจะช่วยให้ SMEs เข้าถึงสินเชื่อได้รวดเร็วขึ้น พร้อมส่งเสริมการใช้เครื่องจักรที่ทันสมัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ผู้ประกอบการสามารถยื่นขอจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักรได้ที่สำนักงานทะเบียนเครื่องจักรกลาง (สจก.) และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี