นายบรรเทิง ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ กลุ่มมิตรผล กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 32 ปีที่ผ่านมา กลุ่มมิตรผลและกลุ่มบริษัทอีสเอเชียชูการ์ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจน้ำตาลของมิตรผลในสาธารณรัฐประชาชนจีน มีแนวทางในการพัฒนาร่วมกันภายใต้วิสัยทัศน์ 'ร่วมอยู่ ร่วมเจริญ' ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงแค่แนวคิด แต่คือหลักการดำเนินธุรกิจที่เรายึดมั่น ทั้งในประเทศไทยและประเทศที่เราเข้าไปลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจีน เราเล็งเห็นถึงการสร้างโอกาสในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และความเชี่ยวชาญ รวมถึงประสบการณ์ในด้านต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ของทั้งสองประเทศ โดยกลุ่มมิตรผลได้ส่งต่อความรู้ ด้านการทำไร่อ้อยด้วยแนวทางเกษตรสมัยใหม่ที่มีความแม่นยำ การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตน้ำตาล ที่สามารถต่อยอดสู่ธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้แก่จีน
ขณะเดียวกันก็ได้นำความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมและไฟฟ้าจากจีนเข้ามาพัฒนาศักยภาพในประเทศไทย อีกทั้งยังร่วมกันพัฒนาบุคลากรในสาขาต่างๆ ผ่านการส่งเสริมด้านการศึกษา ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลให้ก้าวไปข้างหน้า และพร้อมที่จะสานต่อแนวทางการสนับสนุนซึ่งกันและกันนี้ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสู่อุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) ที่จะสร้างมูลค่าและการเติบโตในอนาคตได้อย่างยั่งยืน
นายบรรเทิง กล่าวว่า ตลอดเส้นทางกว่า 3 ทศวรรษ ที่กลุ่มมิตรผลและกลุ่มบริษัทอีสเอเชียชูการ์ ไม่ได้เพียงดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล แต่ยังร่วมกันวางรากฐานเพื่อการพัฒนาที่แข็งแกร่งใน 4 มิติหลัก อย่างครบวงจร ทั้งการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการทำไร่อ้อยด้วยเกษตรสมัยใหม่ที่มีความแม่นยำ “มิตรผล โมเดิร์นฟาร์ม” บนมาตรฐานการทำไร่อ้อยอย่างยั่งยืนระดับโลก (Bonsucro Standard) ที่ช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรอย่างยั่งยืน พร้อมเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลของจีนในระยะยาว สอดคล้องกับนโยบาย “Double High” หรือ “โครงการสองสูง” ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลจีนเพื่อพัฒนาแปลงปลูกอ้อยที่ให้ผลผลิตและความหวานสูง โดยอีสเอเชียชูการ์ มีการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้เทคโนโลยีการจัดการเกษตรสมัยใหม่กว่า 14 แห่ง เพื่อเป็นแหล่งฝึกอบรมให้ความรู้แก่พนักงานและเกษตรกรอย่างครบวงจร
นอกจากนี้ ยังพลิกโฉมการผลิตน้ำตาลด้วยกระบวนการผลิตที่ไร้ของเหลือทิ้ง เปลี่ยนเป็นสิ่งที่มีคุณค่า (Waste to Value Creation) นำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์น้ำตาลให้ทันสมัย ต่อยอดสู่การผลิตไฟฟ้าชีวมวลจากชานอ้อยและใบอ้อย ธุรกิจยีสต์จากกากน้ำตาล ธุรกิจปุ๋ย ไปจนถึงธุรกิจอาหารสัตว์โปรตีนชีวภาพ จนเกิดเป็นเศรษฐกิจหมุนเวียนที่สร้างมูลเพิ่มให้แก่อุตสาหกรรมอ้อยทั้งระบบ ได้รับการรับรองเป็นโรงงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Factory Certification) โดยอีสเอเชียชูการ์นำรูปแบบการผลิตพลังงานความร้อนและไฟฟ้าร่วม (Co-generation) ของกลุ่มมิตรผลที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทยมาปรับใช้ และมีโรงไฟฟ้าชีวมวลจากชานอ้อยถึง 3 แห่ง กำลังการผลิตรวม 90 เมกะวัตต์ ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 210,000 ตันต่อปี
ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ เป็นอีกหนึ่งมิติหลักที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญ โดยมุ่งเน้นการกระจายรายได้ให้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อย ไปจนถึงดูแลคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ ขณะเดียวกัน ยังได้เดินหน้าส่งเสริมและพัฒนา ด้านการศึกษาและพัฒนาชุมชน ที่มุ่งเน้นแลกเปลี่ยนความรู้ ความชำนาญ เพื่อพัฒนาหลักสูตร การเรียนการสอน บุคลากร และนักศึกษา ตลอดจนพนักงานกลุ่มมิตรผล โดยจับมือกับวิทยาลัยเทคโนโลยีเกษตรอุตสาหกรรมชั้นสูงขอนแก่น ลงนามความร่วมมือเพื่อสร้างโอกาสแห่งการแบ่งปันความรู้และเทคโนโลยีร่วมกับสถาบันการศึกษาชั้นนำในจีน ได้แก่ วิทยาลัยอาชีวศึกษาและเทคนิคภาคอุตสาหกรรมกว่างซี ร่วมจัดตั้ง “สถาบันช่างฝีมืออุตสาหกรรมน้ำตาลไทย-จีน” และ “วิทยาลัยเทคนิคด้านพลังงานไฟฟ้าสมัยใหม่” ที่จัดตั้งร่วมกับ วิทยาลัยอาชีวศึกษาโปลีเทคนิคไฟฟ้ากว่างซี นอกจากนี้ ยังได้ลงนามความร่วมมือกับวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยกว่างซี และคณะเกษตร มหาวิทยาลัยกว่างซี เพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการศึกษาร่วมกัน
นายบรรเทิง กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 32 ปีแห่งการพัฒนาร่วมกันระหว่างกลุ่มมิตรผลและกลุ่มบริษัทอีสเอเชียชูการ์ จะยังคงเดินหน้าเพื่อส่งเสริมศักยภาพอย่างต่อเนื่อง ด้วยการแลกเปลี่ยนความรู้ ความเชี่ยวชาญ และเทคโนโลยีของทั้งสองประเทศ ภายใต้วิสัยทัศน์ “ร่วมอยู่ ร่วมเจริญ” ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนพร้อมยกระดับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลของไทย-จีนให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน พร้อมเดินหน้าสร้างสรรค์อนาคตที่ดีร่วมกันต่อไป
- 030
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี